ตั้งชื่อหัวข้อเอง แต่ก็แอบรู้สึกชมตัวเองว่าหัวข้อเท่ห์จัง แหะๆ ล้อเล่นนะฮะ วันนี้ว่าด้วยเรื่องการใช้ชีวิตบนเครื่องบิน เป็นหัวข้อที่ถามกันเข้ามาทางอินบอกซ์แบบครึกโครมพอสมควร ลองมาดูกัน ว่าเด็กๆ แบบเราจะเป็นผู้โดยสารที่ดี มีความสุขกับการบิน แล้วรบกวนคนอื่นให้น้อยที่สุดได้ยังไง อันนี้ตามความถนัดของครอบครัวตั้น

2. ตอนจองตั๋วกับตอน Check in อย่าลืมขอแถวหน้าสุด (ยืดขาได้ยาวกว่าปกติ แล้วก็ติด Baby Bassinet สำหรับเด็กๆ ได้) แล้วก็ขอนั่งติดกันเป็นครอบครัว ตรงแถวกลาง ส่วนน้องๆ คนไหนนั่งริมหน้าต่าง แล้วจะเปิดหน้าต่างดูวิว อย่าลืมถนอมสายตาเด็กๆ ด้วยแว่นกันแดด กันยูวี 100% คุณภาพดีของอเมริกา ยี่ห้อขึ้นต้นด้วยตัว B ชื่อเบบิเอ อะไรนี่แหละ (แหะๆ อันนี้ล้อเล่น)

3. ถ้าครอบครัวไหนบิน Business Class ลองเลือกที่นั่งดีๆ เพราะบางทีเก้าอี้ตรงกลางนั่งได้สองคน แต่จะมีที่วางของกั้น ต้องเลือกแถวที่เก้าอี้ตรงกลางอยู่ติดกันแล้วที่วางของอยู่ด้านข้างแทน (แบบในรูปที่มีจะป้อนข้าวตั้น) ลองดูแผนที่นั่งดีๆ ตั้นเคยจองที่นั่งแถวหน้าสุดเพื่อจะติด Baby Bassinet ปรากฎว่ามีที่วางของตรงกลาง เลยไม่สะดวกเท่าไร

4. ปรับความดันในหูด้วยการกินน้ำเวลาเครื่องบินขึ้นลง ยิ่งถ้าขึ้นเครื่องครั้งแรก น้องๆ อาจจะปวดหูแล้วงอแง ถ้าทานนมแม่ก็มุดเข้าเต้าหม่ำเลย หรือไม่ก็เตรียมน้ำหรือนมใส่ขวดไว้ แต่อย่าตื่นเต้นไป บางคนก็ไม่เป็น ถ้าน้องๆ ป่วยแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนบินนิดนึง บางทีจะยิ่งปวดหูแล้วน้องจะยิ่งงอแง

5. เสื้อผ้าต้องพร้อม บางทีตั้นก็ขึ้นเครื่องไปทั้งชุดนอนเลย ไม่งั้นก็จะไปเปลี่ยนเป็นชุดที่ใส่สบายๆ บนเครื่อง แล้วก่อนลงจากเครื่องถ้าบินไกลๆ ตั้นก็จะค่อยเปลี่ยนเป็นชุดที่คิดว่าหล่ออีกที ยังไงเตรียมเสื้อหนาวไปเผื่อใส่เพิ่มบนเครื่อง อากาศบนเครื่องอาจจะเย็นได้ ถุงเท้าก็จำเป็น ถ้าพี่แอร์เค้าไม่ได้แจกผ้าห่มก็ขอเค้าได้ เผื่ออากาศหนาวเพิ่มขึ้นตอนหลับถ้าเจอเครื่องบินรุ่นที่ยังมีช่องแอร์เป่าลงมาแต่ละที่นั่งก็ปิดของน้องๆ ซะ เพื่อความชัวร์

6. ของเล่นชิ้นโปรดก็ห้ามขาด ตอนเด็กๆ ของตั้นจะเป็นพวกสมุดภาพ หรือนิทาน ตอนนี้เริ่มหัดจับดินสอก็มีพวกแบบฝึกหัดลากเส้นต่อจุด หรือไม่ก็ระบายสี แล้วก็จะมีตุ๊กตาตัวโปรดไปกอดนอนด้วยเสมอ แล้วก็อย่าลืมขอพี่แอร์ ว่าทางสายการบินมีของเล่นอะไรให้เด็กๆ มั้ย

7. นอนราบได้เป็นดี ไม่ว่าจะบินชั้นไหน ถ้าบินอีโคตั้นแล้วที่วางแขนยกได้ก็นอนเอาหัวไว้บนตักมี๊ ขาไปทางพ่อ แล้วพ่อกับมี๊ก็กอดตั้นนอน หรือหาอะไรรัดไว้ วิธีนี้ถ้าไม่ระวังอาจจะอันตรายนิดนึง ต้องระวังดีๆ เกิดพ่อกับมี๊หลับแล้วเผลอปล่อยมือน้องๆ จะกลิ้งหล่นลงไป ถ้าเจอแบบนี้บางทีพ่อกับมี๊ตั้นก็จะผลัดกันหลับๆ ตื่นๆ  แต่ถ้าเจอเก้าอี้รุ่นที่ที่วางแขนยกไม่ได้ก็เอาหมอนใบนึงหนุนตรงที่วางแขนแล้วก็ก้นไว้บนตักมี๊ หรือถ้าโตหน่อยแล้วก็นั่งหลับเอาหัวพิงพ่อหรือมี๊แล้วเอาหมอนรองหัว ถ้าน้องๆ ที่ยังเด็กน้ำหนักยังไม่เยอะ อย่าลืมขอแถวหน้าสุดจะได้ใช้ Baby Bassinet  ยังไงถ้าน้องๆ ยังเด็กมากๆ คุณพ่อคุณแม่ ติดผ้าอ้อมไปซักหน่อย เผื่อปูทับที่นอน เพื่อความสะอาด

8. ถ้าน้องร้องไห้งอแง ตอนเค้าปิดไฟให้นอน คุณพ่อคุณแม่อย่าตื่นเต้น ตกใจ แต่ก็อย่านิ่งเฉย แนะนำว่าให้อุ้มน้องๆ ไปกล่อมกันที่ท้าย Cabin เอาตรงที่ไม่ค่อยมีคนแหละ จะได้ไม่กวนคนอื่น

9. ร้องเพลงกล่อมน้องนอนแนะนำท้ายเครื่อง หรือบริเวณที่ไม่มีคนเช่นกัน

10. อย่าลืมพก Baby Wipe ไปด้วยเสมอ จะได้ใช้เช็ดข้าวของที่ไม่มั่นใจเรื่องความสะอาด มีประโยชน์แน่ บ้านตั้นพกไว้ตลอดเวลาเลย อยู่เมืองไทยก็พก

11. น้องๆ อยากเข้าห้องน้ำ ถ้าน้องยังเด็กแนะนำว่าคุณพ่อคุณแม่ไปช่วยกัน ถ้าห้องน้ำคับแคบยืนแง้มประตูไว้ก็ได้ แต่ระวังเสียงดังรบกวนผู้อื่น หรือถ้าเป็นช่วงปิดไฟก็ระวังแสงไฟนิดนึง ถ้าน้องนั่งโถเอา Baby Wipe ที่พกไปเช็ดซักหน่อย แล้วเอากระดาษรองวางก่อนให้น้องนั่ง

มีเรื่องจะเล่าไว้เผื่อ ตั้นเคยปวดฉี่ตอนเครื่องออกจาก gate แล้วกำลังค่อยๆ วิ่งไป Take off ลุกไปห้องน้ำไม่ได้แล้ว พ่อดูหน้าต่างแล้วว่าอีกซักห้านาทีกว่าจะวิ่งไปถึงที่ Take off สุดท้ายมี๊รีบจับให้ฉี่ใส่ถุงอาเจียนแล้วพับปลายถุง แล้วซ้อนของพ่ออีกถุงกันพลาด พอเครื่องขึ้นถอดเข็มขัดได้ก็เอาไปเททิ้งในโถส้วม แล้วทิ้งถุงในถังขยะ ต้องดูเวลาดีๆ ไม่ใช่เครื่องกำลัง take off หรือ Landing อันนี้ห้าม

12. จอทีวีบนเครื่องหรือ ipad เป็นตัวช่วยสุดท้ายที่ดี ก่อน 2 ขวบตั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ดูจอ พอเลย 2 ขวบมาแล้วพ่อกับมี๊เลยยอมให้ดูจอบนเครื่องบ้าง หรือเล่น ipad บ้าง ครั้งละไม่เกิน 15 นาทีในกรณีที่บินไกลๆ แล้วเล่นของเล่นที่มีหมดแล้ว หรือทานข้าวเองแบบในรูป เกมส์บนเครื่องบินยังไม่เคยเล่น ส่วนมากถ้าไม่ดูการ์ตูนก็จะเปิดแผนที่ (Flight path / Flight info) มาเรียนเรื่องแผนที่กับพ่อหรือมี๊ หรือถ้าเครื่องรุ่นไหนมีจอถ่ายข้างนอกให้ดูก็จะเปิดดูแก้เบื่อ

13. เวลาดูทีวีบนเครื่องหรือที่ไหนตั้นไม่ได้ใช้หูฟังแบบพิเศษที่ช่วยคุมความดังอะไร ก็ปรับเสียงให้เบาๆ แล้วใช้หูฟังที่เค้าแจกบนเครื่องนั่นแหละ เอา Baby wipe เช็ดซักหน่อย

14. อาหารการกินก็ต้องเตรียมไปให้พร้อม check กันก่อนว่ามีอาหารเด็กมั้ย นอกจากนั้นพ่อกับมี๊จะเลือกสั่งอาหารคนละเมนูเสมอ เผื่อจะมีอะไรให้ตั้นกินได้จากของพ่อนิดนึง ของมี๊นิดนึง รวมกับอาหารเด็กตั้นเข้าไปก็อิ่มพอดี ถ้าน้องยังเด็กๆ ก็เตรียมอาหารสำเร็จรูปไปเผื่อ ผ้ากันเปื้อนแบบผ้าเก็บไว้ที่บ้าน ใช้แล้วต้องซัก (จริงๆ ตั้นก็ไม่เคยใช้ที่ไหน กลัวเรื่องเปื้อนกับเรื่องความสะอาด) ไม่ต้องพกไปเที่ยวด้วย ถ้าไม่ใช้ผ้ากันเปื้อนของสายการบิน ก็ใช้แบบพลาสติก หรือผ้ากันเปื้อนที่ทำความสะอาดง่ายแห้งเร็ว ไม่งั้นก็เอาผ้าอ้อมพันรอบตัวกันเปื้อนไว้

15. จะยืนบนเบาะที่นั่ง อย่าลืมถอดรองเท้า เผื่อตัวเราเองต้องนั่งตอนเครื่องลง หรือผู้โดยสารคนอื่นมานั่งต่อ ปกติตั้นก็จะนั่งถอดรองเท้า แล้วก็เวลาจะลุกไปห้องน้ำค่อยใส่

16. แนะนำให้ใส่ Belt ไว้ตลอดทั้งครอบครัวเลย ฝึกน้องๆ ไว้ให้ชินด้วย เพื่อความปลอดภัย อันนี้แนะนำว่าอย่าละเลย จะบินชั้นไหนนอนยังไง ถ้าใส่ได้ควรใส่ไว้ตลอด เครื่องตกหลุมอากาศขึ้นมาจริงๆ อันตราย ในรูปเสื้อเหลืองนี่พอถ่ายเสร็จพ่อก็จับใส่ให้

17. น้องที่ยังไม่เลิกเพิร์สอย่าลืมใส่ไว้ตลอดเวลาบนเครื่องนะฮะ พลาดท่าขึ้นมาจะเรื่องใหญ่ แล้วก็เอาเพิร์สสำรองไปเผื่อด้วย ตอนเด็กๆ ตั้นจะมีทั้งเพิร์สสำรอง แล้วก็เสื้อผ้าสำรองอีก 1 ชุด เผื่อผิดพลาดใดๆ

18. ปกติน้ำเปล่ากับนมตอนเด็กๆ ตั้นจะเตรียมไปด้วย ถ้าตอนที่หม่ำนมผงตั้นก็เอาน้ำร้อนใส่กระติกไปนิดหน่อย ไม่พอก็รบกวนขอพี่แอร์ โตขึ้นมาหน่อยตั้นไม่แพ้นมยี่ห้อไหนตั้นก็เลยพกนมไปไม่เยอะ แล้วบางทีตั้นก็ขอพี่แอร์บนเครื่องเลย ส่วนคุณแม่ที่จะอุ่นนมให้น้องๆ ตั้นจะใช้วิธีขอน้ำอุ่นๆ พี่แอร์แล้วเอาถุงใส่นม (นมแม่) ลงไปแช่ๆ ให้อุ่น

19. มี๊ตั้นไม่เคยปั๊มนมบนเครื่อง ตอนตั้นกินนมแม่ยังบินไม่ค่อยไกล ตั้นเลยฟาดเรียบเสมอไม่ต้องปั๊ม มี๊ก็ไม่กล้าหยิบเครื่องมาปั๊มด้วย กลัวเสียงดัง ยังไงถ้าต้องใช้ก็เตรียมถ่านไปให้พร้อมแล้วลองหามุมเงียบๆ สงบๆ นั่งปั๊ม (แก้ไขเพิ่มเติม ตอนเตอร์มีปั๊มบ้างนะฮะ)

20. ข้อสุดท้ายสำคัญรองจากข้อแรก คุณพ่อคุณแม่ อย่าเครียด อย่า panic เรื่องน้องขึ้นเครื่องบิน เด็กๆ อาจจะมีร้องบ้างก็ตามธรรมชาติ (ยกเว้นว่าน้องป่วย) ปลอบกันไปตามปกติ บินซัก 2-3 flight เดี๋ยวก็คุ้น