วันนี้ตั้นพาเข้าไปเที่ยวใน Shanghai Disneyland ฮะ รายละเอียดต่างๆ เคยลงไปแล้วใน Part 1 นะฮะ

ตื่นเช้ามาวันนี้ยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย สวนสนุกเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า แต่บ้านตั้นตื่นช้านิดหน่อย กว่าเราจะลงมาขึ้นรถ shuttle bus ที่โรงแรมก็ 9 โมงกว่าแล้ว

ระหว่างนั่งรถ Shuttle Bus มี้ตอบอินบอกซ์เพจแว่นไป ตั้นก็มองโน่นมองนี่ไปเรื่อยฮะ นั่งแค่ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงสวนสนุกแล้ว

ลงมาจากรถแล้วแทบละลายฮะ แดดแรงมากถึงมากที่สุด ขนาดเชคมาแล้วว่าอากาศไม่เกิน 30 องศา แต่ความแรงของแดดนี่สุดๆ จริงๆ

แหะๆ แอบเขิลนิดนึงพอดีเมื่อวานเย็นทานอาหารจีนแล้วข้าวสวยเหลือ มี้เลยพกมาด้วยเผื่อวันนี้หาทานในสวนสนุกไม่ได้ เพราะต้ันเป็นเด็กชอบทานข้าว

ลงจากรถมาใส่แว่นกันแดดคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า (:P) ใส่สายจูงพร้อมเรียบร้อยเราก็ไปลุยกันเลยฮะ

ตรงนี้เป็นบริเวณด้านหน้าก่อนทางเข้าสวนสนุกจะมีพี่มิกกี้ล่องเรืออยู่บนน้ำพุฮะ คนรุมถ่ายรูปกันเยอะพอสมควร

ระหว่างทางเดินเข้ามาก็มีพนักงานคอยยืนแจ้งว่าใครไม่มีตั๋ว วันนี้ไม่มีขายที่หน้าสวนสนุกนะเพราะคนเต็มหมดแล้ว ดีที่เราซื้อตั๋วออนไลน์และปริ้นท์กันมาเองจากที่บ้านแล้ว แต่ดูคนแล้วแอบกลัวนิดนึงว่าคงจะคนเยอะมากๆ ในภาพเป็นบริเวณที่ตรวจกระเป๋าก่อนเข้า (แอบโล่งใจฮะ เหมือนคนจะไม่เยอะมาก)

ที่นี่ก็จะเหมือนธรรมเนียมของดิสนีย์แลนด์ทั่วโลกนะฮะ น้ำ นม อาหารเด็ก เอาเข้าไปได้เลย ส่วนของผู้ใหญ่ปกติให้น้ำเปล่าขวดนึง ที่นี่ไม่ทันได้ถามแต่คาดว่าน่าจะเหมือนๆ กัน

T___T ตรวจกระเป๋าเข้ามา แล้วจะเป็นลม คิวตรวจตั๋วเข้าสวนสนุกยาวมากๆ แถมเคลื่อนช้าด้วย

ยืนรอจนตั้นหิวเลย โชคดีที่มี้มีขนมปังกับผลไม้มาด้วย สุดท้ายกินไปรอคิวไป เกือบครึ่งชัวโมงฮะ กว่าจะผ่านเข้าไปได้

ในที่สุดก็หลุดเข้ามาได้แล้วฮะ ได้เข็มกลัดที่ระลึกสำหรับช่วง Grand Opening มาคนละอันด้วย

บริเวณด้านในตรงทางเข้าจะคล้ายกับดิสนีย์หลายๆ ที่ฮะ ซึ่งจะมีดอกไม้รูปพี่มิกกี้กับสถานีรถไฟรอเราอยู่…แต่เหมือนว่าสถานีรถไฟที่นี่จะยังเป็นแค่ของโชว์อยู่เลย ยังไม่มีรถไฟวิ่งจริงๆ ไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะมีมั้ย

ถ้าเราเดินอ้อมไปทางซ้ายจะมีที่ให้เช่ารถเข็นกับ Wheelchair ฮะ ส่วนถ้าใครเดินไปทางขวาจะมี Guest Services เผื่อใครอยากสอบถาม หรือจองร้านอาหารก็ไปที่ Guest Services ได้

อัตราค่าเช่ารถเข็นและ Wheelchair ตามภาพเลยฮะ

พอเราเดินลอดใต้ทางรถไฟเข้ามาจะเจอบริเวณที่เรียกว่า Mickey Avenue ฮะ

รอบๆ avenue ซ้ายขวาก็จะเป็นร้านขายของ ร้านขนม ร้านที่ให้เรา Print Photo Pass (เวลาถ่ายรูปกับช่างกล้องของสวนสนุกเค้าจะให้บัตรมาเรียกว่า Photo Pass เราสามารถมาปริ้นท์ใส่กรอบกระดาษได้แถวนี้ฮะ หรือจะซื้อบัตรเพื่อให้เราสามารถโหลดรูปลงมือถือได้ก็ได้ ไว้เดี๋ยวตั้นมาเล่าให้ฟังแบบละเอียดๆ อีกที) ใครหา Locker เก็บของ ก็อยู่ทางด้านขวาสุดของรูปนี้ฮะ

แอบแปลกใจกับตึกนี้นิดนึงฮะ ถ้าเป็น Disneyland ที่อื่นนี่ City Hall /Town Hall ควรจะเป็น Guest Services

แต่ที่นี่ Guest Services จะอยู่ด้านนอก บริเวณขวามือของดอกไม้รูปพี่มิกกี้ในรูปด้านบนนะฮะ

เราเดินต่อกันดีกว่าฮะ เดินผ่านบริเวณนี้ไปซ้ายขวาก็จะเป็นร้านของที่ระลึกให้เราชอปปิ้ง ซึ่งเหมือนกันกับ Disneyland ที่อื่นคือ ร้านขายของบริเวณนี้จะมีของค่อนข้างครบ ยกเว้นของที่เฉพาะเจาะจงสำหรับร้านอื่นด้านในอาจจะไม่มีขายที่นี่ เช่น ถ้าไปร้านพี่หมีพูห์ แล้วไปเจอเสื้อยืดตัวนึงที่ชอบลายพี่มหีพูห์ ตั้นแนะนำให้ซื้อไปจากร้านด้านในเลย ร้านบริเวณ Mickey Avenue อาจจะไม่มีเสื้อลายเฉพาะเจาะจง

ถ้าเรายืนตรงบริเวณ Mickey Avenue มองไปไกลๆ จะเห็นปราสาทของ Disney ซึ่งมีร้านอาหารอยู่ด้านในด้วย ตั้นแวะไปทานมาด้วย ไว้เดี๋ยวเอามาลงรีวิวให้ดูกันนะฮะ

ด้วยความร้อนของแดดขนาดนี้ แล้วคราวนี้ลืมหยิบร่มพับมาด้วย เราเลยต้องชอปปิ้งกันแต่เช้าเลย เลือกซื้อร่มกันก่อน

ถ้าดูจากภาพจะเห็นได้ว่ามี้ได้แค่ถ่ายรูปกับร่มที่ชอบนะฮะ สายตาตั้งเล็งไปที่ร่ม Buzz lightyear แล้ว

ซื้อร่มเสร็จเราก็เดินมุ่งหน้าไปที่โซน Adventure Isle กัน ระหว่างทางก็เจอพี่เดซี่เดินผ่านมาทักทายกัน

เดินมาได้นิดเดียว พ่อกับมี้หิวฮะ เลยแวะซื้อขนมปังกันที่ร้าน Remy’s Patisserie ซึ่งเป็นร้านขนมปังของพี่หนู Remy จากเรื่อง Ratatouille

ร้านนี้จะเป็น self services ฮะ ด้านในเป็นเคาเตอร์ให้เลือกสั่งอาหารแล้วก็มาจ่ายตังที่แคชเชียร์ แล้วจะมีโต๊ะให้นั่งด้านนอก

แหะๆ พี่ Remy มาอยู่เมืองจีนเลยขายขนมปังไส้หมูแดงกับขนมปังหมูหยองซะเลย ไม่ได้ขายอาหารฝรั่งแล้ว

ราคาของกินก็ตามมาตรฐานดิสนีย์ฮะ จำราคาแน่นอนไม่ได้ แต่คิดเป็นเงินไทยคุ้นๆ ว่าหลักร้อยบาทปลายๆ

พอทานกันเสร็จอย่างรวดเร็ว เราเดินออกมาหน้าร้านยังไม่ทันเดินต่อเลย เจอพี่ชิพพี่เดลนั่งรถผ่านไป วิ่งตามไม่ทันฮะ

ส่วนถ้ามองเลยไปด้านหลังในภาพนี้จะเห็นเครื่องเล่นที่ชื่อ Fantasy Carousel ชื่ออาจจะฟังดูหรูหรา แต่จริงๆ แล้วก็ม้าหมุนที่เราคุ้นเคยกันฮะ แปลกดีที่ที่นี่เอามาไว้ซะด้านหน้าสวนเลย เครื่องเล่นนี้จะตั้งอยู่ใน Zone ชื่อ Garden of Imagination ซึ่งเป็นบริเวณหน้าปราสาทฮะ แต่วันนี้ตั้นขอเดินไปอีกทางก่อน ยังไม่ได้ไปเล่นม้าหมุนเพราะคนเยอะมากๆ

เดินมาอีกไม่กี่ก้าวก็เจอพี่ Duffy มายืนรอ ให้เข้าแถวเพื่อถ่ายรูปอยู่ฮะ ที่นี่ตัวการ์ตูนหาง่ายดีนะฮะ 555

คิวต่อแถวถ่ายรูปกับพี่ Duffy ไม่ยาวมากฮะ นี่ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นตั้นว่าคงมีคนอุ้มตุ๊กตา Duffy มาต่อแถวกันยาวเฟื้อยแน่ๆ

เดินกันต่อฮะ ใครชอปชอปปิ้งที่นี่จะมีร้านขายของให้ดูกันได้เรื่อยๆ ตลอดทางเหมือน Disneyland ที่อื่น

เรามาถึงทางเข้า Zone Adventure Isle แล้วฮะ ป้ายดูขลังดีจัง

ตรงนี้อย่างงนะฮะ ตั้นเดินผ่านป้ายในรูปด้านบนมา แต่เข้ามาแล้วบ้านตั้นเลี้ยวซ้ายเราเลยมาโผล่ใน Zone Treasure Cove ซึ่งจะแต่งออกแนวเรือๆ แนวโจรสลัด กะว่าจะมาพายเรือแคนูซักหน่อย แต่คิวล้นออกมาถึงด้านนอกเลย

ถ้าใครต่อคิวไหว ได้เล่นก็จะได้ช่วยกันพายเรือแบบนี้ฮะ

พ่อกับมี้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตั้นยังไม่ได้ทานข้าวเช้าแบบเป็นจริงๆ เป็นจัง (ตอนนั้น 10 โมงที่เมืองจีน) แล้วเหลือบมาเห็นร้านอาหารจีนท่าทางดูดีเลย จะเข้าไปลองซักหน่อย

ร้านนี้ชื่อ Wandering Moon Teahouse ร้านจะอยู่ใน Zone Garden of Imagination (เบอร์ 23 สีเขียว เผื่อใครดูแผนที่) ที่ต้องบอกละเอียดเพราะเผื่อจะงงกันฮะ คือทางเข้าร้านอยู่ใน Zone Garden of Imagination แต่ทางออกจะอยู่ใน Zone Treasure Cove

ร้านหน้าตาดูหรูหราเชียว ลองเข้าไปดูกันฮะ

ดูจากเมนูของทางร้านแล้วน่ากินมากๆ เลยฮะ เห็นเขียนว่าร้านนี้ Presented by Kang Shi Fu (แบรนด์ใหญ่เกี่ยวกับอาหารและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) ด้วย ตั้นเล็งเนื้อวากิวไว้แล้ว

ด้านในตกแต่งสวยมากฮะ บ้านตั้นแอบดีใจกันเล็กๆ ว่า ดีจังเลยเราเข้ามาตอนสิบโมงยังไม่มีคน ถ้าเที่ยงๆ คนต้องล้นแน่นอน

แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ เริ่มเอะใจ ทำไมโล่งขนาดนี้ ปรากฎว่าเค้าเปิด 11 โมงฮะ T___T หน้าแตก อดกินด้วย

แต่ไหนๆ เข้ามาแล้วขอเดินชมร้านซักนิด ร้านนี้ตกแต่งสวยจริงๆ

ไปฮะมี้้ เค้ายังไม่ขาย ตั้นหม่ำขนมปังที่พกมาไปก่อนก็ได้

ในภาพจะเป็นบริเวณที่นั่งทานอาหารโซน outdoor ของทางร้าน

หม่ำขนมปังเสร็จยังไม่ทันเดินต่อหันมาเห็นซุ้ทไแศครีม ตั้นเลยขออนุญาตล้างปากด้วยของหวานซะหน่อย

วิ่งแซงมาต่อแถวซื้อไอศครีมเลยฮะ

ท่านไหนที่สนใจลองดูราคาไอศรีมและน้ำได้ตามเมนูในภาพเลยฮะ ไอศครีมมีราคา 25/35 RMB น้ำก็ 10/15 RMB (คูณ 5.5 เป็นเงินบาท) น้ำนี่ซื้อจากข้างนอกเข้ามาถูกกว่าเยอะฮะ

อย่างที่เคยเล่าให้ฟังกันนะฮะ ว่าโดยปกติ Disneyland จะมีเทศกาลเป็นช่วงๆ ซึ่งข้าวของที่ขายก็จะมีปรับไปตามแต่ละเทศกาลด้วย อย่างที่ Shanghai นี่เค้ากำหนดให้ตอนนี้เป็น Theme “Grand Opening” ไอศรีมที่ขายเลยมีแบบที่ห่อเป็นลาย Grand Opening ด้วยฮะ

เดิยเลยต่อมาเจอรถเข็น Pop Corn แปลกมากฮะ ที่ไม่มีคิว 555

เงยหน้าขึ้นไปตกใจเลยฮะ พี่เค้ามานั่งรอใครอยู่ไม่รู้ ตั้นรีบวิ่งเลย

เดินเข้ามาในโซน Treasure Cove เรื่อยๆ จะเจอ Pirates of the Caribbean ที่จะพาเราเข้าติดตามเรื่องราวของกัปตัน Jack Sparrow ฮะ

สำหรับใครที่ห่วงเรื่องรถเข็นเวลาเราเข้าไปเล่นเครื่องเล่น สามารถจอดไว้ในโซนที่เค้าจัดไว้ให้ได้ฮะ โซนที่จอดมักจะอยู่บริเวณหน้าเครื่องเล่นเลย

ขอนั่งพักหลบแดดทานไอศครีมหน่อยฮะ ร้อนเหลือเกิน โชคดีที่มีแว่นกันแดดคุณภาพดีช่วยปกป้องดวงตาจากแสง UV น้ำหนักเบาใส่สบาย ไม่บีบขมับ ไม่ต้องคอยใส่สายรัดให้รำคาญด้วย 555 จบช่วงโฆษณา เชิญรับชมรีวิวต่อได้เลยฮะ

หม่ำไอศครีมเสร็จเดินต่อก็เจอ Shipwreck Shore ซึ่งจะเป็นคล้ายที่เล่นให้เด็กๆ เข้าไปเล่น ไปชมวิวกันฮะ

เดินมาอีกนิดจะถึงร้าน Doubloon Market ที่เป็นร้านขายของประจำ Zone Treasure Cove ด้านในตกแต่งเป็นแนวเรือโจรสลัดฮะ

ลองมาดูตัวอย่างของในร้านกันฮะ

เรือนี้น่าพากลับบ้านมากๆ ฮะ แต่มี้ให้สัญญาไว้ว่ามาทริปนี้ให้ของเล่นชิ้นเดียว ตั้นเลยขอเก็บไว้เป็นชอยส์ก่อน

ออกจากร้านขายของจริงๆ เราตั้งใจจะเดินไปที่ Zone Adventure Isle แต่ว่าตั้นเกิดไม่อยากไปฮะ ขอมี้เดินไปทาง Fantasyland แทน เพราะดูแล้วน่าจะเหมาะกับตั้นหน่อย

เดินมาถึงก็ร้านขายของกินก่อนเลยฮะ แวะอีกเช่นเคย 555  Merlin’s Magic Recipe

ลองมาดูเมนูของทางร้านปรากฏพ่อมดเมอลินขายซาลาเปารูปพี่มิกกี้ พี่มินนี่ ตั้นอยากทานอะไรหนักกว่านี้นิดนึงเดี๋ยวพรุ่งนี้ตั้นแวะมาอุดหนุนแล้วกันนะฮะ

เจอแล้ว!!! ดีใจมากฮะ พี่ขายลูกโป่ง ตามธรรมเนียมการเข้าดิสนีย์วันแรกของบ้านตั้น ตั้นจะได้ลูกโป่ง 1 ลูก ที่ต้องรีบซื้อให้วันแรกเพราะกลัวได้ถือไม่คุ้มฮะ เพราะเราเอาขึ้นเครื่องกลับไม่ได้ เดี๋ยวติดตามไปเรื่อยๆ ถึงตอนจบ ตั้นเฉลยให้ฮะ ว่าแล้วบ้านตั้นทำยังไงกับลูกโป่ง

มีให้เลือกหลายแบบดีฮะ ราคานี่คุ้นๆ ว่าประมาณ 40-60 RMB แล้วแต่แบบ ซื้อเสร็จพี่พนักงานจะยื่นกระดาษให้แผ่นนึงในนั้นมีรายละเอียดแจ้งว่าเราไม่สามารถเอาลูกโป่งขึ้นรถไฟได้ (เผื่อใครต้องนั่งรถไฟกลับโรงแรมนะฮะ)

อยากเล่นเครื่องเล่นก็อยาก แต่เวลารอคิวนานเหลือเกินฮะ ุ60-75 นาที น่าจะเพราะเพิ่งเปิดวันที่ 2 คนเลยยังเยอะอยู่ด้วย ว่าจะไปกด Fast Pass ก็นานเหลือเกินกว่าจะได้เล่น ดูอย่างเครื่องเล่นอันบนสุดนะฮะ กดตอนใกล้ๆ เที่ยง ได้เล่นหกโมงเย็น T___T เอาไว้รอพรุ่งนี้แล้วกันฮะ (สรุปเอาเข้าจริงวันรุ่งขึ้นหนักกว่าอีกฮะ บ่ายโมง Fantasyland ปิดไม่ให้กด Fastpass แล้วบอกว่าเต็มหมดแล้ว -_-‘)

อยากเล่น Seven Dwarfs Mine Train จังแต่ให้รอชั่วโมงกว่าถ้าทางจะไม่ไหว ไม่เป็นไรฮะ เราสายถ่ายรูป สายหม่ำ สายชอปอยู่แล้ว เดินเที่ยวกันต่อดีกว่า ตอนนี้อยู่ในโซน Fantasyland แล้ว มี Hunny Pot Spin ของพี่พูห์ที่ดูจะไม่ได้คิวยาวมากลองเข้าไปดูใกล้ๆ กันฮะ

เครื่องเล่นนี้จะเป็นโถน้ำผึ้งของพี่พูห์ที่หมุนๆๆๆ ไปเรื่อยๆ

ข้างๆ Hunny Pot Spin จะเป็น อีกเครื่องเล่นชื่อ The Many Adventures of Winnie the Pooh ซึ่งจะคล้ายๆ กับที่ Hongkong ฮะ จะให้เรานั่งรถเข้าไปดูเรื่องราวของพี่พูห์ และข้างๆ กัน ถ้าเดินมาตรงเวลาพอดี ก็จะมีพี่หมีพูห์มายืนให้เราต่อแถวรอถ่ายรูปด้วยอยู่ฮะ

เดินลึกเข้ามาอีกนิดเราจะเจอธุรกิจเสริมของพี่พูห์ เป็นร้านขายของที่ระลึกชื่อร้าน Hundred Acre Goods ลองเข้าไปดูด้านในกันฮะ

ในร้านตกแต่งน่ารักดีฮะ มีขายข้าวของจากเรื่อง Winnie the Pooh เยอะแยะเหมือนที่ Disneyland ที่อื่นเลย

ไม่พลาดฮะ มี้กับตั้นไปเข้าแถวจ่ายเงินก่อนนะฮะ

ออกจากร้านขายของมามองไปฝั่งตรงข้าม เจอพี่ๆ กำลังเล่นรถไฟอยู่ เพิ่งรู้ฮะว่าอันนี้คือ Seven Dwarfs Mine Train แหะๆ เค้ากำหนดความสูงขั้นต่ำ 97 cm ตั้นเกินมานิดนึงพอดี แต่ยังไม่พร้อมเล่นแนวนี้ฮะ โชคดีที่ไม่ได้หลงไปต่อคิว 555

ตอนนี้ถึงช่วงเที่ยง เริ่มหิวกันอีกแล้วฮะ อากาศก็ร้อนพอสมควรเราเลยพยายามเดินหาร้านอาหารที่มีแอร์ เดินไปเดินมาจนเจอร้านนี้ฮะ Pinocchio Village Kitchen

ด้านในร้านใหญ่อลังการพอสมควรฮะ ใครอยากทานแนวไหวก็ไปต่อแถวเคาเตอร์นั้น มีทั้งข้าวหน้าต่างๆ มีทั้งก๋วยเตี๋ยวแล้วก็มีพิซซ่าให้เลือก ถ้าใครอยากทานทั้งสามแนวก็ต่อแถวหลายทีหน่อย

ตั้นเลือกข้าวผัดกับกุ้งฮะ

บริเวณแคชเชียร์ที่จ่ายเงินก็จะมีน้ำและขนมให้เลือกหยิบไปจ่ายเงิน และแน่นอนว่าตามสไตล์ Disney ก็จะต้องมีจานมีแก้วที่ระลึกขายด้วย

อันนี้ข้าวหน้าปลาไหลของพ่อกับมี้ฮะ มาสไตล์ญี่ปุ่นเลย

จะลงมือทานแล้ว ว่าแต่ลูกโป่งนี่ก็มีประโยชน์ดีเหมือนกันนะฮะ เวลาพ่อหรือมี้แยกไปเดินแล้วจะกลับมาหากันก็มองหาลูกโป่งก่อนเลย

บรรยากาศในร้านก็มีตกแต่งเป็นรูป Pinocchio กับเพื่อนๆ

กินข้าวเที่ยงกันเสร็จออกมาก็เกือบๆ บ่ายโมง ใกล้ได้เวลาพาเหรดแล้ว ที่นี่ไม่ถึงขนาด Tokyo Disneyland ที่คนมานั่งจองที่รอกันก่อนเป็นชั่วโมงๆ ตั้นเดินไปถึงเส้นทางพาเหรอก่อนเริ่มซัก 20 นาทีก็ได้แถวหน้าสุดแล้วฮะ ติดนิดเดียวตรงที่แดดร้อนมาก ถึงมากที่สุดเลยต้องกางร่มนั่งรอกันตลอด แต่ยังโชคดีที่พก Babiators แว่นกันแดดเด็กป้องกัน UV100% มาด้วย ตั้นเลยสบายตาตลอดเวลา แหะๆ ขอ tie in นิดนึงนะฮะ กำลังเห่อมากไปทริปนี้เจอเด็กจีนใส่ Babiators ด้วย จะไปขอถ่ายรูปก็เกรงจะพูดกันไม่เข้าใจ แต่ของเค้าฮิตทั่วโลกจริงๆ ฮะ ไม่ได้เอาของไม่ได้มาตรฐานมาขายกัน โอเคๆ จบช่วงพักโฆษณาฮะ ไปดูพาเหรดกันดีกว่า

หลังจากนั่งรอซักพักพาเหรดก็มาแล้วฮะ ที่นี่จะมีพาเหรดวันละ 2 รอบคือ 1 pm / 4.30 pm แล้วจะมีพลุตอน 8.30 PM ที่บริเวณหน้าปราสาท ยังไงถ้าไปกันวันไหนเข้าไปแล้วเชคเวลากันให้ชัวร์ๆ อีกทีนะฮะ

พี่กูฟฟี่เดินนำมาเลย แต่ทำไมไม่เห็นมีพี่มิกกี้

แหะๆ รูปอาจจะมีอะไรเข้ามาแทรงในภาพบ้างนะฮะ มี้ดูตั้น พ่อถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ ถ่าย Live ลงเพจ ตั้นก็มัวแต่โบกไม้โบกมือเรียกตัวการ์ตูนทุกตัวที่เดินผ่าน

พี่มิินี่กับพี่เดซี่

พี่พลูโตก็มา อ้อ ลืมบอกไปว่าใครสนใจวีดีโอแบบชัดๆ อดใจรอนิดนึง ตั้นให้พ่อถ่ายมาให้ด้วย จะชัดกว่าที่เคยลง Live ไปเยอะเลย แต่ไฟล์ใหญ่นิดนึง เดี๋ยวหาทางเอาลงเพจหรือเวบก่อนนะฮะ

พี่มิกกี้สบายกว่าเพื่อนเลยฮะ มาบนรถไฟของพี่ดัมโบ้

ตื่นเต้นฮะ ขนาดเจอบ่อยๆ ยังตื่นเต้นทุกครั้งที่เจอ พี่เค้าหันมาโบกมือให้ตั้นพอดี (เหมือนจะคิดไปเอง 555)

จมูกสีแดงแบบนี้พี่เดลนะฮะ

แก๊งค์คนแคระทั้ง 7

พี่ๆ ทหารเดินมาแบบนี้ทายกันถูกมั้ยฮะ ว่าการ์ตูนเรื่องไหนจะมาต่อไป

ทายไม่อยากใช่มั้ยฮะ พี่ Jessy จาก Toy Story

ส่วนพี่ Lotso นี่ตัวจริงดูหนานุ่มน่ากอดมากฮะ

ตัวเด่นๆ มากันครบทั้งเรื่องเลยฮะ บ้านตั้นแอบคิดไปกันเองว่าสงสัยที่เมืองจีนจะฮิตเรื่อง Toy Story  Disney เค้าถึงกับเอาเรื่องนี้มาทำเป็น Theme ของโรงแรมเลย (รอรีวิวโรงแรมละเอียดๆ แยกอีกทีนะฮะ)

Slinky ตัวยาวเชียว

Rapunzel ฮะ

Finding Nemo

แน่นอนว่าขาด 2 คนนี้ไม่ได้ฮะ พี่ Elsa กับ พี่ Anna  แล้วก็มี Olaf อยู่ด้านล่างด้วย  Frozen นี่ฮิตทั่วโลกจริงๆ ฮะ ที่ Shanghai Disneyland ถึงกับมี Show ของ Frozen เลย แล้วบ้านตั้นเดินไปเดินมาในสวนสนุก เจอ Elsa แบบหมวยๆ เยอะมากเลยฮะ เด็กๆ ที่นี่น่าจะชอบกันมาก

ปิดท้ายของ Frozen ด้วยพี่คนนี้ฮะ

เอ๊ะ ทำไมมีพี่ทหารชาวจีนเดินมากันเยอะแยะเลย สงสัยจะถึง highlight ที่ Disney ที่อื่นไม่มี

ใช่แล้วฮะ! พี่มู่หลานขี่ม้ามาตัวใหญ่เลย

คันนี้ของจริงสวยมากๆ ฮะ

ยังไม่หมดฮะ ถึงคิวของพี่หมีพูห์กับเพื่อนๆ

หันมาทักตั้นด้วย (คิดไปเองอีกแล้ว)

รถของพี่จินนี่มี Nick กับ Judy จาก Zootopia ยืนอยู่

ด้านหลังรถจะมีตัวการ์ตูนอีกมากมายยืนทักทายกันอยู่ ก่อนจบขบวนฮะ

เวลาใกล้ๆ บ่ายสองแล้วแดดร้อนมากเราเลยเดินกลับกันมาที่บริเวณแถวด้านหน้าของสวน อันนี้ร้าน Paparino ของพี่โดนัลด์จะขายไอศครีมกับวาฟเฟิลฮะ

หนีร้อนเข้าไปชอปปิ้งของที่ระลึกกันดีกว่าฮะ

T___T  เจอกล่องนี้ในร้านเข้าไปอดใจไม่ไหวฮะ ขอใช้สิทธิ์ของเล่น 1 ชิ้นเลยรถไฟดิสนีย์รุ่นที่ทำมาสำหรับช่วง Grand Opening  พ่อกับมี้ไม่ได้บอกไว้ละเอียดด้วยว่าให้ชิ้นแค่ไหน งั้นตั้นเอากล่องนี้ฮะ ฝากพ่อถือนิดนึง วันนี้เรายังชอปกันไม่เยอะเลยไม่ได้ใช้บริการที่เค้าเอาของไปส่งให้ที่โรงแรมในดิสนีย์รีสอร์ทฟรีฮะ ใครอยากดูของที่ระลึกของขาย เดี๋ยวตั้นลงแยกให้อีกทีนะฮะ

ตัดสินใจแน่วแน่ฮะ ว่าเราออกไปซื้อกาแฟและนมเย็นๆ กินแถว Disney Town แล้วกลับไปโรงแรมไปสำรวจโรงแรม แล้ว อาบน้ำเตรียมตัวไปทานข้าวเย็นกันดีกว่า เพราะเย็นนี้จอง Character Dining ไว้ด้วย พรุ่งนี้ค่อยมาสำรวจ Disneyland ส่วนที่เหลือกันต่อ

พรุ่งนี้เจอกันใหม่ฮะ

ขอถ่ายรูปครอบครัวซักนิด มีเคล็ดลับนิดนึง ถ้าใครเดินๆ ไปเจอพี่่พนักงานดิสนีย์ใส่เสื้อกั๊กยืนอยู่แปลว่ามุมนั้นน่าถ่ายรูปฮะ เราจะให้พี่เค้าถ่ายกล้องเรามือถือเราเค้าก็ยินดี หรือถ่ายกล้องเค้าแล้วไปซื้อรูปปริ้นท์ใส่กรอบก็ได้ฮะ

ขอจบตอนนี้ตรงนี้เลยนะฮะ เดี๋ยวจะมีรีวิวตามมาดังนี้ (ไ่ม่เรียงลำดับนะฮะ)

• Toy Story Hotel
• Shanghai Disneyland Hotel
• Disneyland Day 2
• Disney Town
• Lego Store
• Cheesecake Factory
• Character Dining – Lumiere Kitchen (Dinner)
• Character Dining – Lumiere Kitchen (Breakfast)
• Character Dining – Royal Banquet Hall (Lunch)
• Thai Airway Bkk – Shanghai (PVG)
• Thai Airway Shanghai (PVG) – BKK (+ China Airline Lounge)

โอกาสหน้าพบกันใหม่ฮะ ตอนต่อไปขอเวลาซัก 2-3 วัน