ปกติบ้านตั้นไม่เคยไปทัวร์เลยฮะ แต่ว่ามีหลายท่านสอบถาม แล้วก็ปรึกษากันเข้ามาเยอะเลย ซึ่งส่วนมากที่แนะนำให้ไปทัวร์กันก็เพราะหลายๆ บ้านไม่คุ้นกับการเดินทางต่างประเทศ หรือแพลนไปในประเทศที่ไม่สะดวกเรื่องภาษาที่เราถนัด หรือไม่สะดวกเรื่องการเดินทาง ซึ่งเรื่องพวกนี้การไปทัวร์ก็จะช่วยได้ฮะ ส่วนเรื่องราคานี่แล้วแต่กรณีจริงๆ ฮะ บางทีไปเองก็ถูกกว่า บางทีไปทัวร์มีคนช่วยหารค่ารถ ราคาก็ไม่สูง
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วตั้นเลยลองมาเล่าให้ฟังกันว่า ถ้าอยากจองทัวร์พาเด็กๆ ไปเที่ยวเนี่ย น่าจะต้องดู 5 เรื่องนี้เป็นหลักฮะ
1.ตารางรายการเที่ยว
เรื่องตารางเที่ยวนี่แบ่งเป็นสองส่วนฮะ ส่วนแรกคือต้องดูว่าโปรแกรมที่เค้าพาไปในแต่ละวันเนี่ยจะโดนใจเด็กๆ หรือผู้ปกครองมากน้อยแค่ไหน กรณีที่เราไปทัวร์เนี่ยคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าเราอาจจะต้องไปทำกิจกรรมยอดนิยม เช่น ไปเยี่ยมชมร้านยาจีน ไปทำกิมจิ ซึ่งอาจจะไม่โดนใจเด็กๆ บ้าง แต่คงต้องพยายามดูว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ในแทบจะทุกวันจะพอมีอะไรให้เด็กๆ ทำบ้างมั้ย เช่น อย่างไปโตเกียวสี่วัน วันนึงอาจจะไปดิสนีย์ ส่วนวันที่ไปช้อปปิ้งอาจจะดูว่าพอมีร้านขายของเล่นหรือมีอะไรที่เด็กๆ ชอบมั้ยฮะ ส่วนเรื่องที่สองคือเรื่องตารางเวลาในแต่ละวัน ซึ่งในรายการทัวร์อาจจะไม่ได้บอกไว้ชัดๆ แต่ถ้าใครเคยไปทัวร์อาจจะเคยได้ยินคำว่า 678 หรือ 789 ซึ่งแปลว่าตื่น 6 โมง กินข้าวเช้า 7 โมง ออกเดินทาง 8 โมง อันนี้ก็ต้องลองดูฮะว่า น้องๆ จะไหวกันมั้ย แล้วทัวร์เค้าออกเช้าแค่ไหน เข้าโรงแรมดึกแค่ไหน หรือมีช่วงที่คาดว่าเด็กๆ จะได้พักมั้ย เช่น นั่งรถชั่วโมงนึงตอนบ่าย ซึ่งตรงกับเวลาน้องนอนเลย อะไรแบบนี้ฮะ
2. เมนูอาหาร
เรื่องอาหารการกินก็สำคัญฮะ เพราะเด็กๆ จะทานอาหารได้ไม่เหมือนผู้ใหญ่ซะทั้งหมด ยิ่งถ้าน้องบางคนมีแพ้อาหารเนี่ยจะยิ่งต้องสอบถามทางทัวร์นิดนึงว่าแต่ละมื้อเค้าจัดอะไรให้เด็กได้บ้าง ถ้าทานพวกบุฟเฟต์ก็ง่ายหน่อย แต่ถ้าเจออาหารพื้นเมืองแบบ มื้อนี้พาลิ้มรสไก่ตุ๋นโสมและกิมจิ อะไรแบบนี้ เด็กๆ ก็จะอาจจะทานไม่ได้ ก็ต้องลองสอบถามกันดูฮะ ว่าแต่ละมื้อมีอะไร แล้วมีอาหารเด็กมั้ย
3. เวลาของสายการบิน
ข้อนี้จริงๆ ไม่ว่าเดินทางเองหรือไปทัวร์ ก็น่าจะต้องเอามาดูประกอบ ตั้นเคยอธิบายเรื่องวิธีการเลือกเวลาของสายการบินไว้ในลิ้งค์นี้ฮะ
ซึ่งเราก็คงต้องไปตามรายการของทางทัวร์ฮะ แต่ถ้าเจอไฟลท์ที่เวลาบินดีๆ ก็น่าสนใจ เรื่องเครื่องบินนี่ขอแถมอีกนิดฮะ สำหรับน้องที่เล็กมากๆ แล้วยังต้องใช้เปลบนเครื่อง อย่าลืมให้ทางทัวร์ช่วยแจ้งสายการบินให้นะฮะ
4. จำนวนลูกทัวร์ หรือข้อมูลลูกทัวร์คนอื่นที่ไปด้วย
โดยปกติถ้าไปทัวร์ที่มีขนาดใหญ่ เรื่องเวลาเรื่องขั้นตอนอะไรต่างๆ ก็จะมากตามไปด้วยฮะ ตั้นไม่ได้กำลังจะบอกว่าให้ไปทัวร์ที่คนไม่เยอะ แล้วพาเด็กๆ ไปทำทัวร์เค้าสายนะฮะ แต่จะบอกว่าถ้าเจอทัวร์ที่ลูกทัวร์ไม่เยอะมาก ก็อาจจะสะดวกกว่า เราก็มีโอกาสเจอคนอื่นสาย หรือมีปัญหาน้อยลงฮะ ส่วนข้อมูลลูกทัวร์คนอื่นๆ อาจจะลองถามดูเผื่อไว้นิดนึง ว่ามีเด็กๆ เหมือนกันมั้ย หรืออย่างไร อาจจะได้แค่รู้ไว้ประกอบฮะ เพราะเราจะไปฟันธงว่าเจอเด็กๆ เยอะๆ แล้วเค้าจะสายก็ไม่ได้อันนี้มันแล้วแต่ แต่ละบ้านที่เราจะเจอจริงๆ แต่ยังไงตัวเราพยายามรักษาเวลาแล้วกันนะฮะ จะได้ไม่รบกวนคนอื่น แล้วก็อยู่บนรถทัวร์ก็ลองดูพยายามหาอะไรให้เด็กๆ ทำ อย่าให้เด็กๆ ไปรบกวนลูกทัวร์คนอื่นๆ เค้านะฮะ
5. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัททัวร์
อันนี้เป็นมาตรฐานเลยฮะว่าต้องดูเรื่องชื่อเสียงความปลอดภัย ประวัติที่ผ่านมา ซึ่งบ้านตั้นก็ตอบไม่ได้เพราะไม่มีความรู้ตรงนี้จริงๆ เรื่องบริการของแต่ละที่น่าจะขึ้นกับว่าเจอพี่ไกด์คนไหนสไตล์แบบไหนด้วย แต่ยังไงลองดูบริษัททัวร์ที่เค้ามีใบรับรองถูกต้อง ถูกกฎหมายแล้วกันนะฮะ หรือลองสอบๆ ถามเพื่อนที่เคยไปมาก็ได้ฮะ อาจจะพอช่วยประกอบการตัดสินใจด้วย
ก่อนจบบทความนี้ต้องขออนุญาตออกตัวนิดนึงว่าปกติ มีหลายท่านให้มี้ช่วยดูรายการทัวร์ทางอินบอกซ์ ซึ่งมี้ก็จะพยายามช่วยดูให้ แต่จะช่วยดูได้ในแง่ของโปรแกรมการเที่ยวนะฮะ เรื่องราคา เรื่องการบริการอะไรต่างๆ ของทัวร์อันนี้ตอบแทนไม่ได้จริงๆ อย่าว่ากันนะฮะ
ก่อนจบขอแถมอีกนิดฮะ แว่น Babiators รุ่นใหม่ของตั้นเปิดคัวแล้วนะฮะ มีให้เลือกหลายสีเลย คุณภาพดีเหมือนเดิม บ้านตั้นบินไปบินมาต้ังหลายรอบกว่าจะสั่งมา ถึงหน้าตาอาจจะคล้ายๆ แว่นทั่วไป แต่น้ำหนัก และรูปทรงต่างๆ ออกแบบเฉพาะสำหรับเด็กจริงๆ ฮะ รับรองว่าดเหมาะกับเด็กๆ จริง ใครสนใจเชิญเลือกชม เลือกช้อปกันได้ที่
https://www.facebook.com/babiatorsthai/
เช่นเคยนะฮะ
หมวดหมู่:เทคนิคการเดินทาง