รีวิวนี้เราไปดูโรงแรม Disney Art of Animation Resort กันฮะ เป็นโรงแรมที่บ้านตัั้นไปพักตอนเราไปเที่ยว Walt Disney World (WDW) เราพักกันที่นี่ทั้งหมด 6 คืน ลองมาดูกันว่าโรงแรมที่นี่น่ารักแค่ไหน
มาดูรายละเอียดโรงแรมที่ตั้งโรงแรมกันก่อนฮะ โรงแรมจะตั้งอยู่ข้างๆ เลข 31 สีส้มในภาพ (ไม่มีชื่อโรงแรมใน List) โรงแรมจะอยู่ค่อนมาทางข้างล่างๆ ของ WDW บ้านเราไม่ได้เลือกโลเคชั่นว่าใกล้สวนสนุกไหนเป็นพิเศษเพราะยังไงก็แพลนเที่ยวทุกสวนอยู่แล้ว ยังไงสามารถดูรายละเอียดแผนที่แบบชัดๆ ได้ที่
http://www.wdwinfo.com/resortmaps/propertymap.htm
ขั้นต่อไป เรามาดูแผนที่ของโรงแรมกัน จะเห็นว่าโรงแรมกว้างใหญ่มาก ล็อบบี้ของโรงแรมจะอยู่บริเวณ Animation Hall เราจะขึ้นรถ Shuttle Uber หรือ Taxi หรือเข้าออกโรงแรมกันบริเวณนี้ฮะ พวกรถสาธารณะจัไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปบริเวณที่จอดรถเพื่อส่งเราใกล้ๆ ตึกที่เราพักได้
จากแผนที่จะเห็นว่า ทางโรงแรมมีเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าแบบหยอดเหรียญไว้บริการด้วย โดยจะมีอยู่ 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งเวลาเปิดปิดจะไม่เท่ากัน อันที่อยู่ตรงสระน้ำใกล้ล็อบบี้จะเปิดทั้งวัน ส่วนอันที่อยู่ตรงสระน้ำใกล้ตึกทางเลข 8 จะเปิดแค่ช่วงเช้าถึงสี่ทุ่ม การไปใช้เครื่องซักผ้าจะจ่ายด้วยบัตรเครดิต ส่วนน้ำยาปรับผ้านุ่มและผงซักฟอกก็สามารถซื้อได้ที่ห้องซักผ้าเช่นกัน
สามารถดูแผนที่โรงแรมแบบชัดได้ที่ลิ้งค์นี้นะฮะ
http://www.wdwinfo.com/resortmaps/artofanimationmap.htm
การเดินทางไปหรือมาที่โรงแรมสามารถเดินทางด้วย Disney Magical Express ซึ่งเป็นรถ Shuttle ของทางดิสนีย์ที่ให้บริการแขกฟรี แต่ต้องจองก่อน สามารถดูรายละเอียดได้ที่
https://disneyworld.disney.go.com/guest-services/magical-express/
ทางเข้าโรงแรมมาล็อบบี้อยู่ค่อนข้างไกล เลยไม่ได้ถ่ายรูปด้านหน้ามาฝากกันเราเข้ามาที่โรงแรมกัน ตั้นรวมรูปหลายๆ วันมาเรียงให้ดูกันนะฮะ
เข้ามาถึงก็มีกระดานสอนวาดรูปนีโม่วางไว้ให้เด็กๆ เล่นก่อนเลย สามารถหยิบกระดาษและดินสอมาหัดวาดกันได้ สมชื่อ Art of Animation Resort ตั้นไม่พลาดกิจกรรมนี้เช่นกัน
บริเวณด้านซ้ายของล็อบบี้จะเป็นที่เชคอินและ Concierge ส่วนบริการรับฝากและส่งกระเป๋าไปที่ห้องจะอยู่ด้านนอก
บริเวณผนังของล็อบบี้จะตกแต่งด้วยรูปวาด Animation น่ารักๆ ที่บ้านเราเลือกมาพักโรงแรมนี้ก็เพราะอยากจะให้เด็กๆ เห็นรูป เห็นตัวการ์ตูนเยอะๆ นี่แหละฮะ
ซึ่งก็ได้ผลตามที่คาด เพราะแค่ที่ล็อบบี้ก็มีเด็กเห่อและตื่นเต้นกับรูปการ์ตูนแล้ว
วนมาชี้ วนมาดูกันทุกวันฮะ เตอร์ชอบบรื้นๆ
มุมนึงของล็อบบี้จะถูกจัดให้เป็นมุมดูทีวีสำหรับเด็กๆ ซึ่งจะเปิดการ์ตูนของดิสนีย์วนไปทั้งวันฮะ เดินผ่านที มี้ก็ต้องหลอกให้ตั้นกับเตอร์หันหน้าไปทางอื่นที กลัวเด็กๆ ขอแวะดู 555
ช่วงที่ตั้นไปเป็นช่วงคริสมาสต์พอดี ทางโรงแรมเลยมีจัดต้นคริสมาสต์มาวางไว้กลางล็อบบี้ หน้าร้านขายของ
เชคอินเรียบร้อยได้ Magic Band มาแล้ว กินอยู่ลงบิลค่าอาหารใน WDW รวมถึงเปิดประตูห้อง เราจะใช้ Magic Band กันตลอดเวลา ตั้นเคยอธิบายเกี่ยวกับ Magic Band ไว้ในรีวิวนี้นะฮะ
บางช่วงเวลาจะมีลุงซานต้ามานั่งเก้าอี้ให้เราต่อแถวถ่ายรูปด้วย เราเดินมาตอนลุงซานต้าไปไหนไม่รู้ ถ่ายกับแค่เก้าอี้ก็ยังดี 555
สุดทางของล็อบบี้จะเป็นร้าน Ink & Paint Shop ที่เป็นร้านขายของ Official ของ Disney
ของที่ขายในร้านในโรงแรมจะมีบางอย่างที่คล้ายกับที่สวนสนุก และของบางอย่างก็จะมีเฉพาะที่บางสวนเท่านั้น ตั้นแนะนำว่าสำรวจก่อนว่าอยากได้อะไรในโรงแรม จะได้ไม่ต้องไปซื้อจากสวนสนุกแล้วหิ้วกลับมา
เชคอินเสร็จแล้วเดินออกมาจะเจอ Big Blue Pool ที่จะเป็นสระว่ายน้ำอันที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรม เวลาช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ก็จะมีกิจกรรมให้เด็กๆ ทำกันที่สระนี้ สามารถขอตารางกิจกรรมได้ตอนที่เชคอินฮะ ด้านหลังของสระจะเป็นโซนของห้องพัก Theme Nemo
ด้านขวาอีกฝั่งนึงจะเป็นโซนของห้องพัก Theme Car สังเกตว่าจะมี model รถจากเรื่อง Car จอดอยู่ให้เราถ่ายรูปด้วย
จริงๆ บ้านตั้นอยากนอนฝั่งนี้ฮะ แต่ตอนที่จองห้องเต็มหมดแล้ว ขนาดจองล่วงหน้าตั้ง 3 เดือน ฮือๆ อุตส่าห์โทรไปจองก็ยังไม่ได้ สุดท้ายได้เป็นห้องแบบ The Little Mermaid ที่ราคาถูกและอยู่ไกลจากล็อบบี้ที่สุด แต่ขนาดราคาถูกที่สุดในช่วงพีคอย่างคริสมาสนี่ก็ยังราคาสูง T__T ช่วงเดือนอื่นราคาจะดีกว่านี้
ไม่เป็นไรฮะ เลี้ยวซ้ายเดินไปดูห้องพักของเรากันดีกว่า ระหว่างทางเดินไปจะเจอคุณนก 4 ตัวนี้ ร้องทักเราทุกวัน ร้องจริงๆ นะฮะ เค้ามีอัดเสียงไว้ เตอร์มองใหญ่เลย
เราจะพักกันที่โซนของ The Little Mermaid แถมอยู่ตึกที่อยู่ไกลสุดเลย เลยต้องเดินผ่านทุกโซนไป
เราเข้ามาอยู่ในโซนของ Lion King แล้วฮะ Mufasa ยืนรอต้อนรับอยู่ด้านบน
Timon Pumbaa และ Simba ยืนเฝ้าอยู่หน้าตึกเบอร์ 6
มีมุมให้เด็กๆ วิ่งเล่นมุดอุโมงค์อยู่ด้วย ด้านบนจะมีพวกตัวร้ายจาก Lion King เฝ้าอยู่ด้านบน
Scar ก็มี ใครชอบตัวไหนเลือกถ่ายกันได้เลย
ก่อนออกจากโซน Lion King จะมี Zazu ยืนส่งเราอยู่
มาถึงโซน Theme The Little Mermaid แล้วฮะ มี Prince Eric รอเราอยู่
King Triton ตัวใหญ่เท่าตึก
ด้านขวามือจะเป็น Sebastian ยืนเฝ้าสระว่ายน้ำ Flippin’ Fins
เตอร์ยังไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ แต่เจอปลาแบบนี้ก็ดูจะตื่นเต้นมากเรียกฟิชๆๆ ตลอดเวลา
ขอตั้นถ่ายรูปบ้างฮะ ตัวการ์ตูนเยอะสมใจจริงๆ นี่ขนาดตั้นไม่เคยดู The Little Mermaid เจอปลาก็ยังอยากขอถ่ายรูป
เดินมาไกลสมควร ในที่สุดเราก็มาถึงตึกเบอร์ 8 ห้องพักของเราแล้วฮะ หน้าตึกมี Ariel ตัวเท่าตึกรอเราอยู่ แหะๆ ขอมี้ถ่ายบ้างนะ
ขึ้นมาด้านบนตึกเบอร์ 8 ที่เราอยู่ แล้วมองย้อนกลับไป จะเห็นสระว่ายน้ำ Flippin’ Fins และ King Triton ที่เราเดินผ่านมา ด้านซ้ายก็จะเป็น Ursula
ส่วนตึกด้านซ้ายล่างในภาพจะเป็นห้องซักผ้า (ห้องนี้จะเปิดเช้าปิด 4 ทุ่มนะฮะ ต้องเผื่อเวลาซักและอบผ้าให้เสร็จก่อน 4 ทุ่ม ซักจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง อบจะประมาณ 1 ชั่วโมง)
ยังไกลไม่พอฮะ ห้องเราอยู่ที่ชั้น 4 มุมในสุดของตึกที่ไกลที่สุด 555 ด้านหลังมีการก่อสร้างอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงหนวกหูอะไร เงียบสงบดี
ตึกที่เราอยู่บางชั้นจะมีตู้กดน้ำขายนะฮะ เผื่อใครอยากได้เครื่องดื่มใดๆ แต่เราไม่เคยกดกันเลย อ่านต่อไปอีกนิด เดี๋ยวตั้นเล่าให้ฟังฮะ ว่าทำไม
บริเวณทางเดินหน้าห้องพักของเรา
เอ๊ะ ทำไมหน้าห้องเราไม่เหมือนคนอื่น ทำไมมีป้ายอะไรแขวนอยู่หน้าห้องด้วย
เข้ามาในห้องยิ่งตกใจ อะไรเต็มเตียงเลย มีชื่อตั้นกับเตอร์ด้วย
อ๋อ เข้าใจแล้วฮะ จริงๆ มันคือ In Room Celebration Add On ที่พ่อสั่งซื้อเพิ่มให้เค้ามาจัดไว้ในห้อง ให้เซอร์ไพรส์เด็กๆ พ่อบอกว่าเห็นว่าเป็นห้อง The Little Mermaid เลยพยายามหาอะไรที่เด็กๆ น่าจะชอบมาเพิ่มให้ อย่างในห้องตั้นนี่จะเป็น Christmas Set ฮะ (ยกเว้นผ้าเช็ดตัวผืนกลางที่สั่งเพิ่ม) ใครสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่
http://disneyworld.disneyfloralandgifts.com/category/in-room+celebrations.do
Add on แบบนี้เค้าสามารถจัดให้ได้ทั้งโรงแรมใน WDW และโรงแรมใกล้เคียงใน Orlando ฮะ ส่วนประเทศอื่น ที่ตั้นเคยลองก็มีที่ Hong Kong เป็น Birthday Celebration แพคเกจ ไว้เดี๋ยวถ้าค้นเจอรูปจะเอามาลงให้ชมกันอีกทีนะฮะ
มาสำรวจห้องพักของเรากันต่อดีกว่า เราได้ห้องพักแบบเตียงควีนสองเตียง ตอนแรกจะดันเตียงให้ติดผนังแต่ทำไม่ได้ เราก็เลยมีปัญหากันนิดหน่อยเพราะกลัวตั้นกับเตอร์ตกเตียง สุดท้ายเลยเอากระเป๋าเดินทางมาวางกันไว้ด้านนึงแล้วเอาหมอนวางกันไว้ ก็นอนกันมาได้ตลอด 6 คืนฮะ
เราไม่ได้ขอ Baby Crib (เตียงเด็กฮะ) เพราะห้องไม่ค่อยใหญ่ ขอมาเตอร์ก็ไม่ค่อยยอมนอน ปกติอยู่บ้านจะนอนเตียงแบบต่อเพิ่มมาจากเตียงมี้
มาสำรวจบริเวณห้องน้ำกันบ้าง ไม่มีตู้เสื้อผ้านะฮะ แต่มีที่แขวน พร้อมเตารีด ที่รองรีด และตู้เซฟอยู่ข้างอ่างล้างหน้า
มาดูในห้องน้ำกันบ้าง
บริเวณที่อาบน้ำจะเป็นฝักบัว ให้ยืนอาบในอ่าง
สบู่ แชมพูที่วางไว้ให้จะเป็นของยี่ห้อ H2O เหมือนกับโรงแรมดิสนีย์ที่อื่นฮะ
ไม่ว่าโรงแรมจะเป็นแบบไหน ดิสนีย์ก็ยังเป็นดิสนีย์ฮะ มีเรื่องให้เรายิ้มได้เสมอ ในบางวันที่เรากลับมาจากการเที่ยว พี่พนักงานก็จะจัดห้องไว้ให้แบบในภาพเลย พวกตุ๊กตาของตั้นกับเตอร์นั่งดูทีวีกันอยู่อย่างพร้อมเพรียงกัน แถมเปิดทีวีไว้ด้วยนะฮะ เล่นใหญ่มาก 555 น่ารักดีมี้ชอบ (ตุ๊กตากับหมอนที่มีชื่อนี่ของเราเองนะฮะ ได้จากเกมส์บ้าง ซื้อบ้าง)
สำรวจห้องพักเสร็จแล้วก็ไปเดินดูบริเวณห้องอาหารของโรงแรมกันบ้างฮะ
ทำไมเตอร์ซนขนาดนี้ พี่ตั้นยังเกาหัวเลย 55
ห้องอาหารจะอยู่ที่ Animation Hall ฮะ ล็อบบี้ที่เราเชคอินนั่นแหละ
เดินผ่านร้านขายของเข้าไปจะเป็นห้องอาหาร Landscape of Flavors ที่เป็นห้องอาหารแบบ Quick-Service meal สำหรับใครที่ซื้อแพคเกจ Dining Plan (มันคือเครดิตทานอาหารและ snack ฮะ ไว้เดี๋ยวตั้นมาเล่าให้ฟังอีกที) พร้อมห้องพักแบบบ้านตั้น ถ้ามาทานที่ห้องนี้ใช้ 1 Quick Service Credit จะสั่งจานหลัก 1 ได้จาน น้ำ 1 ขวด หรือใครอยากใช้เครดิต Snack ก็สามารถใช้ที่นี่ได้
ก่อนจะเข้าไปที่ห้องอาหารก็แวะที่ร้านขายของเอา Magic Band ไปขอแลกแก้วน้ำประจำตัวกันมาก่อน แก้วนี้จะมากับ Dining Plan ให้เราสามารถกดเติมน้ำที่ห้องอาหารตามโรงแรมของ Disney ได้ตลอดเวลา เติมได้เรื่อยๆ อยากเปลี่ยนเครื่องดื่มก็ล้างแก้วแล้วกดอันใหม่ได้เองเลย อย่างบ้านตั้นก็จะได้แก้วแบบนี้มา 3 ใบ เพราะของเตอร์ไม่มี Dining Plan แต่ในสวนสนุกจะไม่มีที่ให้ใช้แก้วนี้กดนะฮะ
มาหาอะไรทานกันในห้องอาหารกันฮะ
แต่ละเคาเตอร์อาหารจะไม่เหมือนกัน ซึ่งจะมีจอให้เราดูอยู่ด้านบนก่อนไปเข้าแถวเลือกสั่งอาหาร รับอาหาร แล้วมาจ่ายเงิน ใครมี Dining Plan ก็ตัดเครดิตแทนการจ่ายเงิน
สั่งอาหารเสร็จก็ยืนรอรับเลย
ตัวอย่างอาหารมื้อเย็นฮะ คุ้นๆ ว่าใช้ คนละเครดิต 2 ของผู้ใหญ่ ส่วนอีกเซทเลือกเป็น Kid meal เลยมีนมกับแครอทมาด้วย
ตัวอย่างอาหารเช้า แบบนี้ก็ 1 เครดิตฮะ
อาหารเช้าแบบ Vegetarian ก็มี บ้านตั้นไม่ได้มีใครทานมังสวิรัติหรอกฮะ พ่อแค่อยากลองเมนู เราเลยสั่งมาทานกัน 1 credit อีกเช่นกัน
ซอสและเครื่องปรุงต่างๆ วางไว้ให้กดกันได้ไม่อั้น ซอสศรีราชาก็มีด้วยฮะ
แยมก็วางไว้ให้หยิบได้เลย
ประเทศนี้อาหารจานใหญ่มากฮะ จานเดียวทานได้สามคน มื้อหลังๆ เราเริ่มรู้แล้ว เลยไม่ต้องแลกกัน 3 เครดิต 3 จานตลอด บางมื้อก็แลกแค่สองจานแล้วแบ่งกันทาน
พี่ตั้นแลกเครดิต Snack เป็นสตรอเบอรี่มาเหรอฮะ เตอร์เห็นแล้วสนใจมาก
พี่ตั้นเผลอแล้ว เตอร์คว้าใส่ปากเลย 555
เอาแก้วน้ำของเรามากดน้ำกันดีกว่าฮะ มีให้เลือกกดตั้งแต่น้ำแข็ง ชาหวาน ชาจืด กาแฟ น้ำอัดลมมากมาย จะแบบธรรมดา แบบ diet ก็มี กดกันเพลินมาก มีที่ให้ล้างแก้วที่เจ๋งมากด้วย ถ้าเรายื่นมือเข้าไปน้ำจะไม่ไหล ต้องเอาแก้วอันนี้เข้าไปวางน้ำล้างแก้วถึงจะไหล
ตั้นและเด็กๆ หลายคนชอบของแบบนี้มากฮะ มีความสุขกับการกดน้ำมาก ใครจะกินน้ำขอให้บอกตั้นขอกดให้ ตลอด
แต่เอาจริงๆ บ้านเราก็ไม่ค่อยได้แวะมากดบ่อยเท่าไรฮะ เพราะเช้า เย็นหลายๆ วันเราไปจองทานอาหารไว้ที่อื่น ก็อาจจะมีพกแก้วออกมาวันละใบ เช้ากดทีนึง ถือไปกินในสวนบ้าง เย็นก็แวะเติมก่อนเข้าห้อง จะพกทั้งสามใบที่มีไปเที่ยวด้วยทุกวันก็จะพะรุงพะรังไปนิด
เดินผ่านในโรงแรมเห็นมีป้ายเขียนบอกว่าวันที่ 27 ธ.ค. เป็น National Fruit cake พร้อมอธิบายที่มาที่ไป เป็น Gimmick น่ารักๆ ดีฮะ
มาสำรวจโรงแรมกันต่อฮะ อีกเหตุผลที่เลือกโรงแรมนี้คือมี Pixel Play Arcade เป็นห้องเล่นเกมส์ที่ตั้นกับพ่อชอบมาก เท่าที่ลองสังเกตเหมือนจะมีเฉพาะบางโรงแรมใน WDW นะฮะ ไม่ได้มีทุกที่
ก่อนเล่นก็ต้องซื้อบัตรเพิ่มเติมเครดิตกันก่อน ซื้อเยอะก็แถมเยอะ แต่ระวังใช้ไม่หมดนะฮะ บ้านตั้นสุดท้ายต้องไปใช้ถ่ายสติกเกอร์กันให้หมด T__T
เตอร์เตอใจแตกแล้วเห็นพี่ขับรถ อยากขอขับบ้าง มี้ก็ชั่งใจอยู่นิดนึง แต่เห็นว่านานๆ มาเที่ยวทีเลยปล่อยเลยตามเลยให้ลองเล่น
ส่วนใครที่สงสัยว่าเตอร์ขับรถได้ยังไง ขาเหยียบถึงเหรอ อันนี้คือตัวช่วยชั้นดีฮะ เตอร์มีพี่ชายที่แสนดี คอยมุดลงไปกดคันเร่งให้ อาสาเองเลย อยากให้น้องลองเล่น น่ารักจริงๆ เลยลูกชายคนโตของมี้ 555
เดินออกมาด้านหน้าโรงแรมกันบ้างมาสำรวจมุมสุดท้ายของรีวิวนี้กันฮะ บริเวณป้ายรถ Shuttle bus จะอยู่ตรงทางออกจากล็อบบี้ เราอยากไปที่ไหนใน WDW ก็ไปต่อแถวตามป้ายได้เลย ขึ้นฟรีทั้งหมด
ระหว่างรอคิว Shuttle bus มี้ขอถ่ายรูปกับสองหนุ่มซักหน่อย
บริเวณหน้ารถ Shuttle Bus จะขึ้นบอกว่าคันไหนจะวิ่งไปที่ไหน ใครจะขึ้น Shuttle Bus เค้ามีกฎว่ารถเข็นเด็กต้องพับก่อนขึ้นนะฮะ
ตรงป้ายที่ยืนรอรอ Shuttle bus จะมีจอทีวีบอกเราว่ารถคันที่เราจะขึ้นจะมากี่โมงฮะ จากรูปจะเห็นด้วยว่ารถ Shuttle จะวิ่งไปที่ไหนได้บ้าง ส่วนถ้าเราอยากไปโรงแรมอื่นด้วย Shuttle (เช่นไป ทานข้าวเช้าแบบบ้านตั้น ที่พยายามเปลี่ยนบรรยากาศไปทานที่โรงแรมอื่นบ้าง) เราจะต้องขึ้นจากโรงแรมไปลงที่สวนไหนก็ได้ แล้วก็เปลี่ยนไปขึ้นรถคันที่วิ่งไปโรงแรมอื่นฮะ ลองดูแผนที่ว่าโรงแรมที่เราจะไปอยู่ใกล้สวนไหน จะได้ไม่อ้อมมาก
มีวันนึงระหว่างรอรถ อยู่ๆ ก็มีพี่พนักงานของดิสนีย์เดินเอาเหรียญ (กระดาษแข็ง) เขียนว่า Disney Transport มาแจกฮะ อยู่ๆ ได้ของแบบนี้ ถึงจะไม่ใช่ของมีมูลค่าอะไรมากมาย แต่เด็กๆ ก็ตื่นเต้นกันใหญ่เลย
นี่แหละฮะรายละเอียดความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของการมา Disney ที่บ้านตั้นชอบกันมาก บางทีเดินอยู่ในสวน ก็มีพี่พนักงานเอาสติกเกอร์มาให้เตอร์ บางทีก็เคยได้เข็มกลัดที่ระลึกมาแบบ งง งง เค้าแจกกันแบบ random มากๆ แต่แบบนี้แหละฮะ ที่เด็กๆ ชอบและตื่นเต้น เดินยิ้มกันใหญ่เลย
โอเคฮะ ขออนุญาตจบรีวิวโรงแรม Disney Art of Animation Resort ตรงนี้เลยนะฮะ ขอบคุณมากๆ ที่ติดตาม รีวิวหน้าพบกันใหม่นะฮะ
หมวดหมู่:อเมริกา