วันนี้เป็นวันสุดท้ายของสวนสนุกที่ WDW ในทริปนี้ฮะ เราจะวนไปเข้า Disney Magic Kingdom กันอีกรอบ ไปตามเก็บเครื่องเล่นที่ตั้นอยากเล่นให้ครบ ก่อนที่พรุ่งนี้เราจะเก็บข้าวของแล้วย้ายไปนอนแถว Universal Studio กัน
วันนี้เราจะไปทานข้าวเช้าแบบ Character dining กันก่อน ยังเหลือตัวการ์ตูนโปรดของบ้านตั้นอีกตัวที่เรายังไม่เจอเลยตั้งแต่มาถึงดิสนีย์ วันนี้ต้องขอถ่ายรูปด้วยให้ได้
เช้านี้เราเลยไปเริ่มกันที่โรงแรม Disney’s Polynesian Village Resort
เราจะมาทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารชื่อ OHANA พอเดาได้แล้วใช่มั้ยฮะ ว่าเราจะมาเจอใคร
สมุดขอลายเซ็นต์พร้อม นับว่าเป็นกิจกรรมที่ได้ผลกับตั้นอย่างเหลือเชื่อ ใจจดใจจ่อ อยากขอลายเซ็นต์ แถมยังดูแลสมุดของตัวเองอย่างดีด้วย
สำหรับห้องอาหารนี้ พี่พนักงานจะเอาอาหารจานหลักจะมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ ชอบอะไรสามารถขอเพิ่มได้เรื่อยๆ อย่างบ้านตั้นก็ขอแฮม อยู่หลายทีเหมือนกัน
ขอกี้กี้หน่อย (เตอร์เรียกมิิกกี้แบบนี้)
ระหว่างทานข้าวก็จะมีการเปิดเพลงให้เด็กๆ ไปวิ่ง ไปเต้นกับตัวการ์ตูน นอกจากนั้นแล้วตัวการ์ตูนก็จะแวะมาทักทายถ่ายรูป เล่นกับเราตามโต๊ะด้วย
มิกกี้มีลายเซ็นต์แล้ว แต่เจออีกก็ขออีก มี้แอบดูในสมุด เห็นตั้นเขียนกำกับไว้ว่า มิกกี้ฮาวาย (คงเพราะพ่อบอกว่าแต่งตัวแบบนี้คือสไตล์ฮาวาย 555)
Mission completed เจอ Stitch แล้ว ทานข้าวเสร็จแล้วด้วย เราไปลุย Magic Kingdom กันได้แล้ว
ข้อดีของ Disney’s Polynesian Village Resort คือเราสามารถตรวจกระเป๋าเข้าสวนสนุกได้ที่โรงแรมไม่ต้องไปต่อแถวตรวจกระเป๋ายาวๆ ที่หน้าสวนสนุก ตรวจเสร็จก็ขึ้น Monorail ไปลงที่สวนสนุก ตรวจตั๋วเข้าไปด้านในได้เลย สะดวกดี
ระหว่างขึ้น Monorail ไป Magic Kingdom เตอเตอร์เริ่มตาลอยๆ
เข้ามาใน Magic Kingdom แล้วเราก็ขึ้น Walt Disney World Rail Road จากสถานี Main Street เลย รถไฟที่นี่คนไม่ค่อยเยอะเหมือนที่ญี่ปุ่น หรือฮ่องกงนะฮะ แทบไม่ต้องรอคิวเลย
เสียดายที่เมื่อเช้ามีฝนตกนิดนึง บรรยากาศเลยยังดูครึ้มๆ อยู่ ระหว่างนั่งรถไฟไปก็จะมีวิวให้ชมอยู่บ้าง
นั่งรถไฟมาแค่สองสถานี ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีมาลงที่ Fantasy Land แต่เตอร์ก็หลับไปเรียบร้อย
เตอร์หลับมี้ก็เลยพาขึ้นรถเข็นไปเดินเล่นดูของช้อปปิ้ง ส่วนตั้นก็แวะมา เล่นดัมโบ้ที่จอง Fastpass ไว้กับพ่อ
สังเกตว่าบริเวณโซนนี้จะตกแต่งออกแนว Circus ร้านขายของก็ทำเป็นรูปกระโจมละครสัตว์
ด้านในร้านมีขายขนมยอดนิยมที่พี่ๆ ฝรั่งซื้อกันเพียบ แอปเปิ้ลเคลือบคาราเมล บ้านตั้นลองสั่งมากินลูกนึงเพราะมี Snack credit เหลือ แต่ดูไม่ค่อยใช่แนวเราเท่าไร 555
ในโซนนี้ก็จะมีเครื่องเล่นอย่างอื่นอยู่อีกหลายอย่างเหมือนกัน แต่ว่าตั้นเลือกเล่นแค่ดัมโบ้
เดินออกจากโซนนี้มาถึงเพิ่งเห็นป้าย ว่าบริเวณที่เรานั่งรถไฟมาลงเรียกว่า Storybook Circus พอดีเมืื่อกี้รถไฟมาส่งลงตรงด้านหลังเลยไม่ทันเห็น
ออกจาก Storybook Circus มาเจอร้าน Turkey leg ตั้นรีบขอจัดมา 1 ขาทันที ชอบมาก
ระหว่างกินก็เดินชมวิวไปเรื่อยๆ Seven Dwarfs Mine train ชื่อดูน่ารัก แต่ดุของจริงแล้วตั้นคงต้องขออีกซัก 3-4 ปี ถึงจะยอมเล่น 555
แทะขา Turkey เสร็จ เตอร์ตื่นก็ได้เวลาเครื่องเล่นที่จอง Fastpass ไว้พอดี Under The Sea – Journey of The Little Mermaid เครื่องเล่นนี้จะพาเราเข้าไปในโลกใต้ทะเลกับตัวละครเรื่อง The Little Mermaid สวยและสนุกดี ออกมาตั้นเดินร้อง under the sea under the sea ตลอดทางเลย
หลังจากเล่นเครื่องเล่นเสร็จก็เป็นเวลาของพาเหรด เราเลยหยุดดูกันอยู่นานพอสมควร
เตอเตอร์สนใจพาเหรดมากเราเลยยืนดูอยู่กันตั้งแต่ต้นจนจบเลย แต่ว่าวันนี้อากาศหนาวมาก แถมลมแรงด้วยมี้เลยต้องเอาผ้าของมี้มาห่อเตอร์ไว้
สุดท้ายก็ทนหนาวไม่ไหว เดินย้อนไปที่ Main Street ไปจัดเสื้อมาเพิ่มคนละตัว มิกกี้ตัวนี้หูตั้งเชียว
เสื้อมีให้เลือกไม่กี่แบบ มีแค่ไซส์ละแบบสองแบบ ไปๆ มาๆ เลยได้เสื้อคล้ายๆ กันพี่น้อง กลายเป็นมิิกกี้ไปทั้งคู่ สองหนุ่มของมี้ดูจะตื่นเต้นกับเสื้อใหม่มาก 555
ถ่ายรูปเล่นอยู่ซักพักถึงเวลาเที่ยงก็ได้เวลาไปหม่ำกันแล้ว มื้อนี้เราจะหม่ำอาหารสไตล์ดั้งเดิมของอเมริกันที่ร้าน Liberty Tree Tavern
คนรอคิวเพียบเลย ขนาดเราจองเวลาไว้แล่วยังต้องรอเกือบ 20 นาที
ดีที่ระหว่างรอคิว ทางร้านมีกิจกรรมให้เด็กๆ ระบายสีเล่น สองหนุ่มเลยไม่เบื่อ
ตัวอย่างเมนู อาหาร และขนมของทางร้าน เราใช้ Dining credit สามารถสั่งได้ 1 appetizer 1 Entree 1 Dessert และเครืื่องดื่ม อาหารร้านนี้จานใหญ่ (มาก) แต่อร่อยดี
ทานอาหารเที่ยงเสร็จเราก็เดินย้อนกลับมาที่ Tomorrow land กัน
ตั้งใจจะมาเล่นเครื่องเล่นชื่อ Buzz Lightyear’s Space Ranger Spin กัน จอง Fastpass ไว้แล้ว ตั้นติดใจมาจากที่ Disneyland Hongkong (ล่าสุดถ้าเข้าใจไม่ผิดเครื่องเล่นนี้ที่ฮ่องกงปิดไปแล้วนะฮะ)
ด้านในระหว่างรอแถว ก็จะตกแต่งบรรยากาศให้รู้สึกเหมือนว่าเราอยู่ในฐานของ Buzz Lightyear
เครื่องเล่นนี้จะให้เรานั่งยานของ Buzz เข้าไปยิงเป้าด้านใน เพื่อสะสมคะแนนแข่งกัน ตั้นชอบมากๆ
เล่นเครื่องเล่นเสร็จก็มาถึงช่วงสุดท้ายของเรากับ Magic Kingdom ในทริปนี้แล้ว เราเผื่อเวลาไว้เดินชิว เดินเล่น ถ่ายรูป แล้วก็ช็อปปิ้งกัน
ใครไปสวนสนุกลองเผื่อเวลาแบบนี้ไว้บ้างนะฮะ มี้แนะนำ เดินเล่นแบบชิวๆ ดูผู้คน ดูโน่นๆ นี่ๆ เพลินดี
เตอเตอร์กำลังเกาะรั้วดูอะไร
อ่อ คุณเป็ด นี่เอง (ถ้าเป็นห่านก็ขอโทษ มา ณ ที่นี้ด้วยนะฮะ เตอร์เรียก ดั๊ก ดั๊ก ตลอดทริปเลย 555)
ขอมี้ถ่ายรูปกับปราสาทเป็นที่ระลึกบ้าง
สำรวจกันทุกซอก ทุกมุม ป้ายนี้เราก็ยังมายืนอ่านกัน
นั่งทำอะไรนะ มี้ก็จำไม่ได้
เดินเล่นถ่ายรูปกันมาเยอะแล้ว ได้เวลามาช็อปปิ้ง
มีเด็กพยายามขอใช้สิทธิ์ของเล่น 1 ชิ้นกับรถไฟ Set ใหญ่ แต่สุดท้ายไม่ได้ เพราะหน้าตาเหมือนของ Disney อีกคันที่ตั้นมีแล้วบ้าง สิทธิ์ซื้อของเล่นเลยยังอยู่ต่อไป
คนรอถ่ายรูปกับต้นคริสมาสต์เพียบเลย บ้านตั้นก็ไม่พลาดเช่นกัน
เก็บบรรยากาศอีกซักรูปบริเวณ City Hall ด้านหน้า วันนี้เราออกจาก Magic Kingdom เร็วนิดนึง เพราะจะไปสำรวจ Disney Boardwalk แล้วจะไปทานมื้อเย็นกันที่นั่น จาก Magic Kingdom เราสามารถนั่ง Shuttle bus ฟรีไปที่ Disney Boardwalk ได้
เราจะมาทานมื้อเย็นที่ร้าน Flying Fish ในภาพ แต่ยังพอมีเวลาอยู่ มาเดินเล่นสำรวจ Disney Boardwalk กันก่อน
Disney Boardwalk เป็นบริเวณริมน้ำที่มีร้านอาหาร ร้านขายของ ร้านขนมอยู่หลายร้าน มาเดินเล่นถ่ายรูปก็ชิวดี แต่วันนี้อากาศหนาวไปนิด เลยต้องเอาผ้าเช็ดตัวที่ซื้อจาก Magic Kingdom มาห่มเพิ่มอีกชั้น
มีขบวนรถม้างานแต่งงานพอดี ยินดีกับพี่ๆ ด้วยนะฮะ รถม้าเท่มากๆ
ตัวอย่างร้านค้าบริเวณ Disney Boardwalk ร้านเครื่องดื่ม ร้าน Bakery ร้านอาหารอยู่เรียงกันไป สามารถดูรายละเอียดของแผนที่และร้านต่างๆได้จากลิ้งค์นี้
https://disneyworld.disney.go.com/destinations/boardwalk/
ที่ Boardwalk นี่มีโรงแรมด้วย เผื่อใครอยากนอนโรงแรมริมน้ำ ดูได้ที่ลิ้งค์นี้ฮะ
https://disneyworld.disney.go.com/resorts/boardwalk-inn/
ESPN Club เป็น Sport Bar and Restaurant พ่อตั้นดูสนใจเป็นพิเศษ
ร้านไอศครีม Ample Hills
เดินเล่น ถ่ายรูปกันอยู่แป๊ปนึงก็ได้เวลาอาหารเย็น ร้าน Flying Fish ด้านในหรูหรามาก
https://disneyworld.disney.go.com/dining/boardwalk/flying-fish/
สั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย ใช้ Dining Credit อีกเช่นเคย แต่ร้านนี้หรูหรามาก เลยใช้ 2 Credit ต่อคน ซึ่งแต่ละคนก็จะได้ 1 appetizer 1 Entree 1 Dessert และเครืื่องดื่ม
Appetizer ของพ่อน่าสนใจมาก ชื่อ The Evolution of Cheese เวลาทานต้องทานเรียงตามเข็มนาฬิกาด้วย (เครื่องดื่มพ่อนี่สั่งเพิ่มนะฮะ ไม่รวมใน Dining Plan)
อาหารมาเต็มโต๊ะแล้ว Selfie ครอบครัวกันหน่อย
ตัวอย่างเมนูอาหารและขนมของทางร้าน
ทานอาหารเสร็จก็ต้องจบรีวิวแล้ว ตั้นหลับคาโต๊ะอีกแล้ว 555 ยังปรับเวลานอนไม่ค่อยได้ หกโมงครึ่ง หลับแล้ว เราเลยต้องรีบขึ้น Uber กลับโรงแรมกัน ยังไงรีวิวหน้าพบกันใหม่นะฮะ
หมวดหมู่:อเมริกา