iรีวิวนี้บ้านตั้นพาไปทาน Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร Latest Recipe โรงแรมเลอเมอริเดียนถนนสุรวงศ์ฮะ เมื่อก่อนบ้านตั้นก็มาทานบุฟเฟ่ต์ตอนเที่ยงวันเสาร์ อาทิตย์บ่อยๆ แล้วก็ลืมๆ หายไป
จนกระทั่งทางโรงแรมมาชักชวน และแจ้งว่าเค้าเพิ่มกิจกรรมสำหรับเด็กๆ เข้าไปใน Sunday Brunch ด้วย เลยสนใจและได้มีโอกาสกลับมาทานกันอีกครั้ง ซึ่งหลังจากลองทานแล้ว ดูคุณภาพวัตถุดิบ รสชาติอาหาร และกิจกรรมสำหรับเด็กๆ เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วพอว่าคุ้มค่าน่าสนใจมากเลยกล้าเอามาแนะนำกัน
ลองมาดูข้อมูล Sunday Brunch กันก่อน ทางห้องอาหารจะเปิดให้ทานกันนานถึง 4 ชั่วโมงตั้งแต่เที่ยงครึ่งถึงบ่าย 4 โมงครึ่ง สำหรับใครที่คิดว่าจะทานกันนานขนาดนั้น เดี๋ยวลองดูกิจกรรมสำหรับเด็กๆ กันก่อน 555 รับรองว่าได้นั่งกันเกือบครบ 4 ชั่วโมงแน่ๆ
ส่วนเรื่องราคาสำหรับผู้ใหญ่แบบไม่ได้ร่วมโปรโมชั่นใดๆ จะอยู่ที่ 1,700 บาท เนท ถือว่าดีงามมากถ้าเทียบกับ Sunday Brunch ทั่วไป และถ้าพิจารณาคุณภาพอาหารประกอบด้วย ถือว่าคุ้มมากๆ
มาดูรีวิวกันเลยดีกว่า
ห้องอาหารจะอยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรม จอดรถที่จอดรถใต้ดินแล้วขึ้นลิฟท์ตรงมาโผล่ที่ห้องอาหารได้เลย บ้านเรามาถึงก่อนห้องอาหารเปิดเล็กน้อยเลยได้มีโอกาสสำรวจและเก็บภาพมาฝากกัน
บุฟเฟ่ต์ของทางห้องอาหาร Latest Recipe ตอนนี้ให้บริการอาหารตามคอนเซ็ปต์ชื่อ La Dolce Vita, From Nice to Portofino + The Heart of Asia หรือถ้าอธิบายอีกอย่างก็คือเป็นอาหารที่ปรุงตามสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน อาหารจากเมืองนีซประเทศฝรั่งเศส และมืองพอตโตฟิโน่ ประเทศอิตาลี รวมถึงอาหารเอเชียด้วย
ทีเด็ดสำหรับพ่อๆ แม่ๆ ก็คือทาง Latest Recipe จะจัดมุมไว้ให้เด็กๆ ทำกิจกรรมระหว่างหรือหลังทาน ฺBrunch ด้วย ตลอดเวลา 4 ชั่วโมงคุณพ่อคุณแม่สามารถทานอาหารไปคุยเล่นกันไป แล้วผลัดกันพาเด็กๆ มาเล่น มาทำกิจกรรมที่ทางห้องอาหารเตรียมไว้ได้ อย่างพ่อตั้นก็นั่งดื่มไป ทานอาหารไปเรื่อยๆ รอลูกทำกิจกรรมได้สบายมาก
หรือถ้าเด็กๆ อยากนอนพักผ่อน ทางห้องอาหารก็มีเตียงเด็กและที่นอนจัดเตรียมไว้ให้ด้วย มี้ไปลองส่องๆ ดู ก็ดูสะอาดน่านอนดี 555 เตอร์จะได้ใช้บริการมั้ย
กิจกรรมที่มีให้เด็กทำก็มีตั้งแต่ระบายสี เล่นตราปั๊ม ซึ่งอันนี้ยังไม่รวม workshop สำหรับเด็กๆ ในช่วงบ่ายอีกนะฮะ
ตั้นสามารถใช้เวลาทั้งวันกับตัวต่อได้ 555 เจอแบบนี้ชอบเลย
ส่วนเตอร์เองก็อยากรู้ อยากเล่นตามพี่ไปเรื่อน ดูเพลินมาก นี่ยังไม่ได้เริ่มทานอาหารกันเลย
วนกลับมาูที่โต๊ะอาหารกันบ้าง บนโต๊ะมีเมนู ที่มี Gimmick ตัวการ์ตูนเล็กๆ น้อยๆ ให้เด็กๆ อ่านกัน
แผ่นรองอาหารน่ารักๆ มาปูรอเตอร์กับตั้นอยู่แล้ว
ยังมีเวลาอีกนิดก่อนไลน์อาหารจะเริ่มก็มาสำรวจ Package เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Free Flow ที่เป็น Add On จากบุฟเฟ่ต์กันก่อน จะมีให้เลือก 2 ราคาคือ 700 บาท และ 2,350 บาท ซึ่งจุดที่ต่างกันของ 2 package คือ ตัวแพคเกจ 2,350 บาทจะ เสิร์ฟแชมเปญของ ฺBollinger ด้วย
ตัวอย่างหน้าตาเครื่องดื่มใน Package
ส่วนถ้าใครไม่เน้นแอลกอฮอล์ในบุฟเฟ่ต์ก็มีเครื่องดื่ม Mocktail อร่อยๆ รวมให้อยู่แล้ว
ได้เวลาเทีี่ยงก็มาเริ่มสำรวจไลน์อาหารกัน เริ่มจากสเตชั่นแรกเน้นอาหารไทยๆ อย่างเปาะเปี๊ยะกุ้ง และยำส้มโอกับส้มตำที่เลือกให้พี่พนักงานปรุงให้ใหม่ตามรสชาติที่เราชอบได้
สลัด bowl สามารถเลือกส่วนผสมแล้วปรุงเองได้เลย ตักเครื่องใส่ได้เต็มที่ตามใจชอบ ซึ่งเท่าที่มี้ส่องๆ ดูก็ดูเหมือนว่ามีเครื่องให้เลือกใส่เยอะดี
ตามมี้มาดูไลน์อาหารกันต่อ
Alaska marinate Salmon จากป้ายเห็นว่าเอามาปรุงด้วย Sea salt ตามแบบเมดิเตอร์เรเนียน เวลาทานจะได้รสชาติกับรสสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของทางเชฟ ซึ่งมี้ก็ไม่พลาดเอามาลองเช่นกัน
หรือจะเลือกเอาปลาไปปรุงก็สามารถเอาเบอร์โต๊ะมาใส่โถแก้วได้
สเตชั่นอาหารญี่ปุ่นมีซาชิมิและข้าวห่อสาหร่าย
ซูมให้ดูคุณภาพความน่าทานของ Salmon Sasihmi กันชัดๆ
บะหมีเย็นแบบเส้น Buckwheats
เถิบมาดูที่สเตชั่น Seafood กันบ้าง ของสดละลานตา มีทั้งกุ้ง หอยแมลงภู่ และ Snail (อย่าแปลนะฮะ 555 แต่ใครชอบทานห้ามพลาด) คือปกติเวลาบ้านเราไปทานบุฟเฟ่ต์ตามโรงแรมเนี่ย จะชอบไม่ชอบ เราให้น้ำหนักกับความสดของพวกซีฟู้ดพอสมควร อย่างที่นี่ที่ชอบเพราะเนื้อปูแกะออกมาได้เป็นก้อนๆ เลย
หอยนางรมก้มีให้เลือกหลายสายพันธุ์ ลองส่องๆ อาหารอื่นแล้วดูสดใช้ได้ เลยกล้าทานหอยนางรม 555 ซึ่งก็สดดีจริงๆ
ตบท้ายสเตชั่นนี้้วยเนื้อปูอลาสก้าที่เอาส้อมดันได้เนื้อออกมาเป็นก้อนๆ ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดของทางห้องอาหารแล้วเพลินมากๆ
มาต่อกันที่สเตชั่นพาสต้า
ยังไม่ทันเลือกสั่งพาสต้าเลย หันมาเจอชีสวางไว้ให้ตักไปโรยเพิ่มซะแล้ว 555 ตักสิฮะ ตัก
มีพาสต้าให้เลือกสั่งอยู่หลายแบบ ใครอยากทานอันไหนก็เอาเบอร์โต๊ะมาใส่ในโหลแก้วได้
มาทานบุฟเฟ่ต์แบบนี้ อะไรไม่เคยลองทานก็ต้องถามแล้วลองสั่งดูเป็นประสบการณ์ 555
Farfalle ก็น่าทาน
หรือใครอยากทานสปาเก็ตตี้แบบปรุงสำเร็จแล้วก็เลือกตักได้
มาต่อกันที่สเตชั่นบาร์บีคิว มีทั้งปลาเนื้อหมูไก่ครบครัน
ข้างๆ กันจะเป็นสเตชั่นพิซซ่า
พิซซ่าที่เสิร์ฟจะออกมาจากเตาอบร้อนๆ ทางห้องอาหารมีเตาอยู่ด้านหลังสเตชั่น
เดินวนมาอีกด้านจะเป็นมุมของสลัดมี Quinoa Salad กับ Italian Rice Salad ทานแล้วรู้สึกสบายใจ บอกตัวเองว่าได้ทานอาหารสุขภาพ 555 แต่เอาจริงๆ สลัดของทางห้องอาหารเค้ารสชาติโอเคเลยนะฮะ
เดินวนมาอีกทางจะเป็นสเตชั่นขนมปังและชีส
ชีสมากมายถูกใจเตอร์สุดๆ
ที่นี่มีชีสให้เลือกเยอะจริงๆ
ผักดองและเครื่องเคียงต่างๆ ใครดื่มไวน์น่าจะยิ่งถูกใจ
เดินมาสำรวจสเตชั่นต่อไปกัน ใครชอบฟัวกราเอาเบอร์โต๊ะมาใส่ที่สเตชั่นนี้ได้เลย
ฟัวกราชิ้นหนาๆ เสิร์ฟมากับไข่และขนมปังเข้ากันดี
จานหลักมีเนื้อแกะ (ใครชอบทานแกะแนะนำนะฮะ) เซอลอยด์ และปลากระพง
สเตชั่นซุปมีกระเพาะปลากับซุปอะไรอีกอย่างนึงที่มี้กับตั้นจำไม่ได้ฮะ T__T ต้องขอโทษด้วย ดันไม่ได้ลองทานซะด้วย มีแต่ตักกระเพราะปลามาให้เด็กๆ
สเตชั่นอาหารคาวสุดท้ายเป็นอาหารแบบให้เราเอาเบอร์โต๊ะใส่โถเลือกสั่งได้ตามใจ เพื่อให้ทางเชฟปรุงให้ อย่างในภาพนี้เป็น จานนี้คุ้นๆว่าเป็นตับกับสมุนไพราดซอส
หอยเชลล์ตัวโตๆ กับเนยกระเทียมเสิร์ฟมาบนมันบด
เป็ดกับซอสแครนเบอรี่ไวน์แดง
จานสุดท้ายเป็น Roasted Pork Belly with Spices
สำรวจไลน์อาหารกันเสร็จเรียบร้อย เยอะแยะเหลือเกิน ได้เวลาไปตักอาหารมาทานกันแล้ว
หมี่เย็นนี่ของโปรดเลย
เนื้อปูอลาสก้าแกะได้ง่ายๆ เอามาจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันสุดๆ
ได้เลือกอาหารเอง ได้ชี้เอาโน่นๆ นี่ๆ ก็ถูกใจสิฮะ แฮปปี้สุดๆ
พี่ตั้นกินบะหมี่เย็นกับผักและเนื้อต่างๆ
พิซซ่าของเด็กๆ มี้สั่งหน้าแฮมกับไข่มาให้
ลุย!!! ไม่ต้องอธิบายเลยว่าชอบมั้ยอร่อยแค่ไหน
ชีสยืดๆ ของพี่ตั้น
อาหารจานตับที่พ่อสั่งมา
ขอเพิ่มอีกฮะ
ส้มตำของมี้ สั่งแบบไม่เผ็ดมาก
ฟัวกรา 4 จานรวด 555 อร่อยฮะ ตอนแรกสั่งไปสอง ตอนหลังต้องเดินไปสั่งเพิ่ม
ทานไปครึ่งชั่วโมงเริ่มอิ่ม เริ่มตาลอย แต่ยังมีกิจกรรมรอตั้นอยู่
Roasted Pork Belly ที่สั่งไว้มาเสิร์ฟแล้ว
หอยเชลล์ตัวโตเหมือนเวลาไปทานตามร้านหรือตลาดปลาที่ญี่ปุ่น
เสร็จจากอาหารคาวก็ได้เวลามาสำรวจขนมหวาน
ชอคโกแลตน่ารัก เสียดายตั้นเป็นเด็กไม่ชอบทานชอคโกแลตเลยขอผ่าน
อยากทานสายไหมพี่เค้าก็ทำให้ทานได้
St. Honore Cake ขนมฝรั่งเศสด้านบนเป็นน้ำตาลคาราเมล ด้านล่างเป็นแป้งพัฟคล้ายๆ เอแคลร์แปลกดี อร่อยด้วย
ข้าวเหนียวมะม่วงก็มี ดีที่แบ่งเป็น portion เล็กๆ ให้ทานแล้วรู้สึกสบายใจ 555
เหมือนว่าทางห้องอาหารจะเน้นมะม่วงในช่วงนี้ มีขนมหลายเมนูที่เอามะม่วงมาเป็นส่วนประกอบ ได้เป็นขนมใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยทาน เริ่มกันจาก Cheesecake มะม่วง
ต่อมาด้วยชอคโกแลตมูสกับแยมมะม่วง
สุดท้ายเป็นพัฟมะม่วง คล้ายๆ ทาร์ตไข่ฮ่องกง แต่ไส้เป็นมะม่วง
ใครชอบพวกพินาคอตต้า มูส และผลไม้ มีแช่อยู่ในตู้เย็นให้เลือกหยิบทานกันได้
ตบท้ายด้วยตู้ไอศครีม ที่บ้านเราเดินวนเวียนมากันหลายรอบ มีรสชาติอย่าง ชาไทย มะม่วง ราสเบอรี่ ฯลฯ มี้กับพ่อชอบตรงไม่หวานมาก
เครื่องเคียงสำหรับราดไอศครีมตักกันได้เต็มที่
ตั้นจัดไอศครีมมาสองลูก เพลินเลย
เด็กๆ กำลังเพลินกับอาหาร นั่งกินกันได้เอง มี้ก็มีเวลาถ่ายรูปบ้าง
เตอร์ก็หม่ำไอศครีมเอง ท่าจะชอบมาก
หลังจากเด็กๆ ทานขนมกันเสร็จก็ได้เวลาความสนุกของเด็กๆ มี้เดินลงมาดูเด็กๆ ทำกิจกรรมกัน รอ workshop ตอนบ่ายสอง ส่วนพ่อก็กำลังเพลินกับเครื่องดื่ม ซีฟู้ดและชีส
บ่ายสองโมงได้เวลา Pizza Workshop วันนี้เราจะมาเป็นพ่อครัวกัน
ลุยฮะ ระหว่างที่พี่ตั้นกำลังนวดแป้ง เตอร์ก็มายืมไม้นวดแป้งไปถือถ่ายรูป
ทางห้องอาหารมีพี่ๆ มาสอนเด็กๆ ทำอย่างใกล้ชิด
ทำแป้งเสร็จก็ได้เวลาโรยหน้าพิซซ่า
หลังจากป่วนพี่ตั้นอยู่พักนึง เตอร์ก็ไปคว้าหนังสือเด็กของทางห้องอาหารมานั่งอ่านเล่น (อ่านออกซะที่ไหน ทำท่าดูรูปไปงั้นแหละ แหะๆ)
เตอร์ขอลองเตียงของทางห้องอาหารหน่อย
เรียบร้อยพร้อมนำไปอบ พี่พนักงานจะช่วยเอาไปอบให้ แล้วเอาไปใส่กล่องให้เราเอากลับบ้านกัน เด็กๆ ยิ่งถูกใจเข้าไปอีก กลับมาบ้านยังเรียกหาพิซซ่าฝีมือพี่ตั้นกัน
ระหว่างรอพี่ๆ เตรียม Workshop ต่อไป เด็กๆ ก็มานอนเล่นกัน
Workshop ต่อไปเป็นการแต่งหน้าคัพเค๊ก เริ่มจากการบีบครีมก่อน
ต่อด้วยการแต่งหน้าคัพเค๊กของตัวเองด้วยขนมต่างๆ
ตั้นเลือกเอาใจเตอร์ด้วยการเอาหม่อนของโปรดเตอร์มาแต่งหน้าเค๊ก แต่งง่ายๆ วางๆ เป็นอันเสร็จ
แต่งหน้าคัพเค๊กเสร็จพิซซ่าก็อบเสร็จพอดี
พี่พนักงานใจดีเอากล่องมาใส่คัพเค๊กกับพิซซ่าให้ตั้นถือกลับบ้าน
ทานอาหารเสร็จ ทำกิจกรรม ทำ Workshop เสร็จก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยเสร็จสิ้นมื้ออาหารแสนเพลินของเด็กๆ ที่ตั้นดูจะติดใจเป็นพิเศษ (แน่สิ ทั้งมีของที่ชอบกิน มีไอศรีม มีของเล่น มี Workshop) คงได้กลับมาทานอีกในเร็ววันฮะ
หมวดหมู่:ร้านอาหาร, ไม่มีหมวดหมู่