รีวิวนี้บ้านตั้นพานั่งเครื่อง A330 – 300 ของสิงคโปร์แอไลน์กลับจากสิงคโปร์มาเมืองไทยฮะ ช่วงนี้มีธุระเลยต้องไปสิงคโปร์กันบ่อยนิดนึง

ไฟลท์นี้เราบินกลับกันตอนบ่ายๆ เครื่องออกจากที่สิงคโปร์สี่โมง แต่พอดีมีต้องทำ GST Refund เพื่อคืนภาษีของที่ซื้อ เลยมาถึงสนามบินกันตั้งแต่บ่ายโมงฮะ วันนี้บินกลับจาก Terminal 2 ของ Changi แอร์พอร์ต

เริ่มกันที่เคาเตอร์เชคอินเลยฮะ เคาเตอร์ของ BC จะอยู่ที่แถวแรกเลย คนละฟากกับที่ทำคืนภาษี เราเลยลง taxi กันที่สุดตึกตรงที่เข้าไปแล้วทำเรื่องภาษีได้ แล้วค่อยเดินกลับมาเชคอิน เคาเตอร์ที่นี่รวมทุกไฟลท์ของสิงคโปร์แอไลน์ โชคดีที่วันนี้คนไม่เยอะเท่าไร

หลังจากเชคอินเสร็จเราก็เข้าไปด้านใน ไปซื้อของเพิ่มเติมเล็กน้อยแล้วก็ไปนั่งหาอะไรทานรอเครื่องขึ้นกันที่เลาจน์ของ Singapore Airline  ใครสนใจตัวเลาจน์สามารถชมรีวิวได้ที่ลิ้งค์นี้นะฮะ ตั้นเคยลงรีวิวไปแล้ว

https://www.facebook.com/pg/babytravelbyalton/photos/?tab=album&album_id=676016262595806

ตัดภาพมาอีกทีเราก็มาโผล่กันที่บนเครื่องบินเลย เพิ่งขึ้นมาถึงบนเครื่องฮะ พ่อกับมี้กำลังเก็บข้าวของกันอยู่เตอร์ก็กำลังสำรวจที่นั่งรอบๆ

หลังจากมี้เก็บข้าวของเสร็จก็จับเตอร์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าฮะ เพราะเมื่อกี้ก่อนขึ้นเครื่องตอนกินข้าวที่เลาจน์ เตอร์ทานแล้วเปื้อนเต็มตัวไปหมด เราเลยได้ใช้เสื้อสำรองของเตอร์ตั้งแต่ขึ้นเครื่องเลย ระหว่างนั้นพี่พนักงานก็เอาผ้าร้อนมาให้แล้ว

ตั้นขอเลือกเป็นที่นั่งติดริมหน้าต่าง เพราะอยากดูเครื่องบนขึ้นลง แล้วให้เตอร์นั่งกับมี้ฮะ ส่วนพ่อนั่งเว้นไปโดยที่มีทางเดินคั่นเพราะเวลามีอะไรจะได้ช่วยมี้ดูเตอร์ได้

เครื่องยังไม่ขึ้นเตอร์ก็ยังขอสำรวจรอบๆ ไปเรื่อยเห็นตั้นมองนอกหน้าต่างก็อยากมามองอีกบ้าง

พยายามหาอะไรทำระหว่างรอเครื่องขึ้นฮะ มี้จับให้นั่งด้วยกัน ตั้นเลยพยายามจะอ่านหนังสือให้น้องฟัง แต่ดูน้องจะไม่ค่อยสนใจเท่าไร เพราะกำลังตื่นเต้นกับเครื่องบิน

เตอร์พยายามจะไปชวนพี่ที่นั่งข้างหลังเล่นฮะ ตั้นเลยต้องคอยห้ามๆ ดึงๆ ไว้ ใจนึงก็ห่วงนอง ใจนึงก็อยากอ่านหนังสือ

ระหว่างรอเครื่องขึ้นพี่สจ๊วตก็เดินเอาของมาให้ตั้นกับเตอร์ คนละถุงฮะ เปิดออกมาเหมือนกันเลยเป็นหุ่นมือรูป Monster Inc เตอร์ดูจะชอบเป็นพิเศษ ส่วนตั้นจะชอบแนวเครื่องบิน หรือพวกสมุดกิจกรรมมากกว่า

ระหว่างรอเครื่องขึ้นลองมาสำรวจที่นั่งกันบ้างฮะ ในภาพจะเป็นที่นั่งของพ่อที่มีทางเดินคั่นมี้กับเตอร์ พอดี seat plan เค้าเป็น 2 2 2 เราเลยต้องนั่งกันแบบนี้

บนที่นั่งมีหมอนกับผ้าห่มวางรอไว้ตั้งแต่เราขึ้นเครื่อง เบาะกว้างขวางดีฮะ ถึงเครื่องจะดูอาวุโสไปนิด แต่โดยรวมถือว่านั่งสบายดี

พ่อเลือก welcome drink เป็นแชมเปญฮะ

บริเวฯณด้านหน้าที่นั่งจะมีเมนูอาหาร คู่มือความปลอดภุย นิตยสารและหูฟังเเสียบไว้ให้

เมนูอาหารไฟลท์นี้เป็น light dinner เพราะเราบินกันตอนสี่โมงแล้วบินแค่ประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งพี่แอร์ก็มาเดินถามตั้งแต่เครื่องยังไม่ขึ้นว่าเดี๋ยวเครื่องขึ้นแล้วจะทานอะไร พ่อทานเป็นเนื้อ ส่วนมี้กับตั้นขอเป็นไก่ฮะ

หูฟังแบบครอบฮะ มี้กับพ่อไม่ทันได้ลองว่าเป็น noise cancellation มั้ย

รีโมทควบคุมหน้าจอจะเสียบอยู่ด้านข้างบริเวณที่วางแขน

เครื่องขึ้นและสัญญาณรัดเข็มขัดดับแล้วฮะ บินกันบ่ายๆ เย็นๆ แบบนี้ฟ้าสวยดีจริงๆ ตั้นนั่งดูเพลินเลย

เอ่อ เครื่องขึ้นได้แปปเดียวเตอร์ก็ทำท่าเหมือนหิวอีกแล้วฮะ มี้เลยเอาของที่สตอคไว้ให้ทาน

ตั้นกำลัง งง ว่าทำไมน้องถึงกินบ่อยจัง 555  กล่องใส่อาหารแบบในรูปนี่สะดวกมากนะฮะ มี้พกไว้ตลอดใส่ผลไม้ ใส่ขนม หรือบางทีก็พกกล่องเปล่าเผื่อใส่อาหารจากร้านอาหารไว้ให้ตั้นกับเตอร์ทานเวลาอื่น

จะกินอะไรก็ขอใส่ผ้ากันเปื้อนซํกนิด เพราะเตอร์นี่สายลุยของจริง กินทีไรเละไปทั้งตัว ว่าแต่ใครสนใจผ้ากันเปื้อนดีๆ แบบนี้เลือกได้ที่ https://www.facebook.com/jujubethai/ นะฮะ ขอโฆษณาซักนิด 555 เป็นแบบ reversible แถมมีที่เก็บเศษอาหารที่หล่นด้วย ที่สำคัญที่สุดคือเนื้อผ้าเคลือบ Teflon ป้งกันคราบ และทำความสะอาดง่ายด้วยฮะ

ขนมผ่านไปสองชิ้นก็ยังไม่พอใจเตอร์ มี้เลยต้องจัด Picnic Baby ที่พกมาให้อีกซอง (ช้อนนี่แถมมาในกล่องนะฮะ) เตอร์ซัดเรียบอีกเช่นกัน

อาหารมาแล้วฮะ จานนี้เป็นของพ่อที่เลือกเมนูเนื้อไว้เสริฟ์มากับมันบด อาหารจะเสิร์ฟมาทั้งถาดแบบในภาพเลย  appetizer ที่อยู่ทางมุมซ้ายบนของรูปจะเป็น Duck Confit ส่วนของหวานจะเป็นเเค้กฟักทองกับมะพร้าวที่เสิร์ฟมาพร้อมผลไม้ อาหารมีแค่นี้เลย ถ้าเข้าใจไม่ผิดจะไม่ได้มีชีส หรือผลไม้หรือไอศครีมเหมือนบางสายการบิน พยายามองหาแล้วไม่มี ในเมนูก็ไม่มี หรืออาจจะเพราะบินสั้นด้วย

จานนี้ของพ่อแต่ตั้นรวบหน่อไม่ฝรั่งกับแครอทไปทานเรียบฮะ ของโปรดตั้น

เครื่องดื่มมีพวกน้ำอัดลม ไวน์ น้ำผลไม้ ชากาแฟ ให้เลือกแต่พ่อตั้นเลือกเป็นแชมเปญฮะ

ของที่เสิร์ฟที่ดูจะโดดเด่นหน่อยน่าจะเป็นขนมปังฮะ มีให้เลือกหลายแบบดี นอกจากขนมปังธรรมดากับขนมปังกระเทียมแล้วก็ยังมีให้เลือกอีกหลายแบบ

ขนมปังขอเพิ่มได้เรื่อยๆ แบบในภาพนี่แปลกดีฮะ

จานนี้เป็นอกไก่ของตั้นฮะ ตั้นกับมี้เลือกอาหารแบบเดียวกัน

เตอร์เริ่มสงสัยว่าทำไมไม่มีอาหารของเตอร์บ้าง แต่มี้เริ่มสงสัยเหมือนกันว่าเตอร์จะกินไหวอีกเหรอลูก

มี้ต้องดูน้องฮะ ตั้นก็เลยค่อยๆ ทานเองไปเรื่อยๆ

ทานอาหารกันเสร็จแล้วเราก็เริ่ม งง งง กันนิดนึงว่าทำไม ไม่มีอาหารของเตอร์มาเสิร์ฟ พ่อเลยลองถามพี่สจ๊วตให้ว่าแล้วอาหารเด็กที่ขอไว้ล่ะ พี่เค้าก็ทำหน้างง งง นิดนึงแต่ก็บอกว่ารอแป๊ปนึงนะเดี๋ยวไปอุ่นมาให้แล้วก็เอามาเสิร์ฟให้ตามภาพฮะ จะเป็นอาหารคาวขวดนึง ผลไม้ขวดนึง และน้ำผลไม้ (เสร็จตั้น)

หลังทานอาหารเสร็จก็เหลือเวลาอีกพอสมควรก่อนเครื่องจะลงฮะ พี่สจ๊วตแนะนำให้พ่อลอง Singapore Sling ส่วนมี้อดทานเพราะเตอเตอร์อยู่ด้วยแล้วไม่รู้ว่าเตอร์จะขอหม่ำนมเมื่อไร

ไฟลท์นี้เตอร์ตื่นตลอดไฟลท์ฮะ เพราะหลับมาตอนบ่ายต้นๆ มี้กับพ่อเลยไม่ได้ปรับเก้าอี้นอนกันเลย แต่ก็ยังมีโอกาสได้ถ่ายรูปเก้าอี้ตอนปรับนอนมา เก้าอี้รุ่นนี้เบาะปรับราบได้เลยฮะ

ส่วนตั้นหลังจากทานข้าวเสร็จก็เอนจอยกับ in flight entertainment ฮะ ขอดูมิกกี้ซักหน่อย

อีกแปปนึงเครื่องจะลงแล้ว มี้เลยพาเตอร์ไปห้องน้ำเปลี่ยนเพิร์ส แล้วเตรียมเก็บข้าวของ

ก่อนสัญญาณรัดเข็มขัดขึ้นพี่พนักงานก็เอาบัตร fast track ที่ไม่ค่อย fast เท่าไรของสุวรรณภูมิมาแจก (คนเยอะมาก ยืนรอกันอยู่นานพอสมควรเลย) บ้านเราต้องเข้าช่องแสตมป์ปกติกันฮะ เพราะเตอร์ยังแสกนนิ้วไม่ได้

แล้วพอสัญญาณรัดเข็มขัดขึ้นก็ได้เวลาเครื่องจะลง รีวิวนี้ก็เลยจบตรงนี้แล้วฮะ เดี๋ยวรีวิวหน้าตั้นพาไปเที่ยวที่อื่น หรือพาไปขึ้นไฟลท์อื่นๆ อีกนะฮะ